นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสารใน "กัญชา" สามารถหยุดยั้งโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในมนุษย์

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแม็คควอรี (Macquarie University) ในออสเตรเลีย ค้นพบว่าสารใน "กัญชา" หรือ สารแคนนาบิไดออล (CBD) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ไม่มีผลต่อจิตประสาท และ สารแคนนาบิดิวาริน (CBDV) ซึ่งมีผลต่อจิตประสาทจากกัญชาสายพันธุ์ ซาติวา (Cannabis sativa) มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราคริปโตค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus neoformans) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงและรักษายาก โดยการค้นพบครั้งนี้ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ต่างชาติ PLOS Neglected Tropical Diseases
ความท้าทายของเชื้อราและการดื้อยา
เชื้อโรคจากเชื้อรา เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยมีเชื้อราประมาณ 300 ชนิดที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ และด้วยปัญหาการดื้อยาที่เพิ่มขึ้น จึงมีความต้องการทางเลือกในการรักษาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ฮิว ดินห์ (Hue Dinh) นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยแม็คควอรี (Macquarie University) ในออสเตรเลีย ได้อธิบายใน วารสาร PLOS Neglected Tropical Diseases ว่า "เมื่อเชื้อ คริปโตค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus neoformans) ได้เข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง จะทำให้เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่คุกคามถึงชีวิต ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่รักษายาก"
ประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการและกลไกการออกฤทธิ์
ในการทดลองในห้องปฏิบัติการ นักวิจัยได้แยกสารประกอบทั้งห้าจากกัญชา และนำมาทดสอบกับเชื้อคริปโตค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus neoformans) และเชื้อโรคอื่นๆ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า แคนนาบิไดออล (CBD) และ แคนนาบิดิวาริน (CBDV) สามารถฆ่าเชื้อ คริปโตค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus neoformans) ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาต้านเชื้อราที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบว่าสารประกอบเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังทั่วไป เช่น โรคกลากที่ขาหนีบและโรคน้ำกัดเท้า
จากการศึกษาระดับลึก (Proteomics Analysis) พบว่า แคนนาบิไดออล (CBD) และ แคนนาบิดิวาริน (CBDV) มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา โดยไปทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อราเสียความเสถียร โดยจะส่งผลต่อกระบวนการการสร้างสารเออร์โกสเตอรอล (Ergosterol) ที่เป็นส่วนสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์
และเพื่อยืนยันผลการทดลองในห้องปฏิบัติการ นักวิจัยได้ทำการทดสอบกับหนอนผีเสื้อกลางคืน (Galleria mellonella) ซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดที่คล้ายกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นแบบจำลองที่ยอดเยี่ยมสำหรับการศึกษาเชื้อโรคและการรักษา
โดยผลลัพธ์ที่ได้มีความน่าสนใจ พบว่าหนอนที่ติดเชื้อ คริปโตค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus neoformans) และได้รับการรักษาด้วย แคนนาบิไดออล (CBD) มีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่าหนอนที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านเชื้อรา แอมโฟเทอริซิน บี (Amphotericin B) ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อราที่รุนแรงในมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ โดยอัตราการรอดชีวิตใกล้เคียงกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ติดเชื้อ
ศักยภาพในการรักษาการติดเชื้อผิวหนัง
แม้ว่าการรักษาการติดเชื้อที่เข้าสู่ปอดและสมองจะซับซ้อนกว่า แต่ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า อย่างน้อยที่สุด การใช้แคนนาบิไดออลเฉพาะที่อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนังหลายชนิด และการค้นพบครั้งนี้ตอกย้ำศักยภาพของพืชกัญชาในการเป็นแหล่งของยาใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้มีการวิจัยและพัฒนาการรักษาโรคติดเชื้อราที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วยทั่วโลกที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายที่เกิดจากเชื้อรา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
