กล้องฟิล์ม (ไม่ง้อฟิล์ม) ถ่ายสนุก รักษ์โลกจาก Flashback
กระแสนอสทัลเจีย (Nostalgia) ที่พาคนรักกล้องหวนรำลึกถึงอดีตอันแสนหวานยังคงแรง ด้วยกล้อง “แฟลชแบ็ก” (Flashback) รุ่น วัน35 (ONE35) กล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้งสุดคลาสสิกแห่งศตวรรษที่ 21 ที่ผสมผสานเสน่ห์กล้องฟิล์มและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าด้วยกันอย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยคอนเซ็ปต์ลดขยะที่เกิดขึ้นจากการใช้กล้องแบบใช้แล้วทิ้ง ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างสนุกสนานและรักษ์โลกในเวลาเดียวกัน
“กล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้ง” ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ยุค 80 เพราะความสะดวกและรวดเร็วในการถ่ายรูปกลางแจ้ง โดยในอดีตกล้องประเภทนี้จะบรรจุม้วนฟิล์มเข้าไป พอใช้ถ่ายครบตามจำนวนรูปในฟิล์มแล้ว ก็จะไม่สามารถนำกล้องกลับมาใช้ได้ เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้เพียงครั้งเดียว ให้อารมณ์เหมือนตอนที่เราใช้จานกระดาษหรือแก้วกระดาษ ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของกล้องประเภทนี้เลย
ปัจจุบันมีผู้ผลิตบางราย ได้ออกแบบและพัฒนาวัสดุใหม่ ให้ใช้แล้วไม่ต้องทิ้ง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ต้องใช้ฟิล์มในการบันทึกภาพอยู่
ล่าสุด เคลริก มูลเลน (Kelric Mullen) และ แม็กเคนซี ซาลิสบูรี (Mackenzie Salisbury) ผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ตอัปที่มีชื่อเดียวกันกับกล้อง อุดช่องโหว่ของกล้องใช้แล้วทิ้ง ทั้งในเรื่องของการใช้ฟิล์มและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทุก ๆ ปี จะมีขยะที่เกิดขึ้นจากกล้องที่ว่านี้เกือบ 1,200 ตัน จากสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียเพียง 2 ประเทศเท่านั้น ยังไม่นับรวมประเทศอื่น โดยพวกเขาริเริ่มความคิดนี้ตั้งแต่ปี 2020
หากมองเผิน ๆ กล้อง Flashback ก็ดูเหมือนกล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้งแบบดั้งเดิมทั่วไปที่มีช่องมองภาพ แกนม้วนฟิล์ม และแฟลช แต่ความจริงแล้วกล้อง Flashback ไม่ได้ใช้ม้วนฟิล์มในการถ่ายภาพ กลับกันมันใช้เทคโนโลยีดิจิทัลฟิล์ม สามารถถ่ายภาพได้มากถึง 27 ภาพต่อครั้ง เมื่อถ่ายภาพครบตามจำนวนกล้องจะถ่ายโอนรูปภาพเหล่านี้ไปยังแอปพลิเคชัน Flashback ในสมาร์ตโฟนที่ทำหน้าที่เป็นหลังห้องล้างฟิล์ม ซึ่งผู้ใช้จะต้องรอเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนที่จะได้เห็นภาพถ่ายผลงานของตัวเอง ในขณะที่รอก็สามารถถ่ายภาพเซ็ตใหม่ได้อีก นับเป็นการคงเสน่ห์อย่างหนึ่งของการถ่ายภาพฟิล์มด้วยกล้องตัวนี้ “ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ พวกเราหวังที่จะจุดประกายความเชื่อมโยงที่มีมนต์เสน่ห์ระหว่างการจับภาพในช่วงเวลาที่เป็นธรรมชาติและวิธีการถ่ายภาพอย่างเรียบง่าย” ทีมงานของ Flashback กล่าว
จุดเด่นของกล้องอีกอย่างหนึ่งคือการที่ผู้ใช้สามารถเลือกฟิลเตอร์สีม้วนฟิล์มก่อนที่จะถ่ายภาพได้ โดยปัจจุบัน Flashback มีฟิล์มให้เลือก 2 สีด้วยกัน ได้แก่
#flashbackclassic ฟิล์มสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟิล์มซูพีเรีย (Superia) ของฟูจิฟิล์มที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพช่วงเวลาแห่งความสุขและการปาร์ตี้
#flashbackmono ฟิล์มขาวดำหรือที่เหมาะสำหรับภาพรายละเอียดสูง ขณะที่ทีมงาน Flashback กำลังพัฒนาฟิลเตอร์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความสนุกให้กับผู้ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน
Flashback กล้องใช้แล้วทิ้งรักษ์โลก
ตามคอนเซ็ปต์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กล้องใช้แล้วทิ้ง Flashback ผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิลที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดการสร้างขยะที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ นอกจากถ่ายภาพได้สะดวกแล้วยังรวมเข้ากับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ด้วยระบบดิจิทัลฟิล์ม กล้องตัวนี้จึงช่วยให้ผู้ใชประหยัดเงินค่าฟิล์มที่มีราคาสูงขึ้นในปัจจุบันอีกด้วย
ปัจจุบันกล้อง Flashback อยู่ระหว่างการระดมทุนการผลิตผ่านเว็บไซต์คิกสตาร์ตเตอร์ (Kickstarter) แพลตฟอร์มระดุมทุนชื่อดัง โดยตั้งราคาโพรโมชันเริ่มต้นที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,800 บาท และอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากแคมเพนสิ้นสุด
อย่างไรก็ดี ก่อนที่ Flashback จะวางขายกล้องนี้เป็นครั้งแรกผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว ทีมงานได้พัฒนาสินค้าตัวต้นแบบผลิตด้วยวิธีการเดียวกับที่ใช้ในระดับการผลิตจํานวนมาก (Mass production) รวมถึงระบบซอฟต์แวร์ของกล้องเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยกล้องฟิล์ม Flashback ที่เสร็จสมบูรณ์มีกำหนดที่จะจัดส่งถึงมือคนรักกล้องภายในเดือนสิงหาคมนี้
ที่มาของข้อมูล Designboom
ที่มาของรูปภาพ Instagram (joinflashback) kickstarter