เอกชนเสนอรัฐเพิ่ม ‘หัวหิน’ รับต่างชาติ ต.ค. นี้ คาดนักท่องเที่ยวจ่อเข้าแสนคน เงินสะพัด 1.2 พันลบ.

นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสปาไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้หารือร่วมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอให้รัฐบาลเพิ่มเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการใช้เป็นพื้นที่พื้นที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นไทม์ไลน์การเปิดประเทศแบบไม่มีการกักตัวแล้ว โดยการเพิ่มหัวหินในการใช้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะทำได้ต่อเมื่อมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสให้กับคนในพื้นที่ในสัดส่วนที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ ซึ่งในภาพรวมของพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินมีความต้องการวัคซีนรวมทั้งหมด 353,498 โดส ซึ่งจะต้องเร่งให้เริ่มการฉีดวัคซีนเข็มแรกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ จำนวน 176,749 โดส และเริ่มฉีดเข็มที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป เพื่อให้ทันต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามกำหนด ซึ่งแผนการดำเนินการของหัวหิน มีความสอดคล้องกับแผนการจัดหาและนำเข้าวัคซีนของรัฐบาล มีเน้นเมืองที่มีความต้องการและสำคัญก่อน โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา จำนวน 1 แสนราย สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเสนอให้รมว.การท่องเที่ยวฯ รับทราบแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะนำข้อเสนอดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป

นายกรด กล่าวว่า ข้อเสนอที่ยืนไป ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พร้อมผลักดันข้อเสนอดังกล่าว แต่ขณะนี้ขอนำร่องการจัดหาวัคซีน และเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ผ่านการทำภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ก่อนโดยจะเริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จากนั้นจึงจะขยายไปยังพื้นที่นำร่องอื่น ซึ่งจะมีพื้นที่ของเทศบาลเมืองหัวหินเพิ่มเข้าไปด้วย และอาจทำพื้นที่เชื่อมโยงกับพัทยา จังหวัดชลบุรี ให้สามารถเดินทางผ่านทางเรือข้ามอ่าวไทย รองรับการเปิดพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ รวมอีก 5 พื้นที่ ได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ พังงา เกาะสมุย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว สามารถเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว และเมื่ออยู่ครบ 7 วัน ก็อนุญาตให้เดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นได้ โดยรมว.การท่องเที่ยวฯ รับว่าจะนำข้อเสนอดังกล่าวหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพิ่มเติม ขณะที่ภาคเอกชนเองก็ต้องหารือกับทางผู้ประกอบการเรือเพื่อเตรียมความพร้อม และอาจหารือร่วมกับภูเก็ต เพื่อทำพื้นที่นำร่องเดินทางระหว่างกันต่อไป

“การเพิ่มพื้นที่หัวหินเป็นอีกหนึ่งพื้นที่นำร่องนั้น จะทำผ่านโครงการหัวหิน รีเชนจ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาลและสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจรถเช่า บริษัททัวร์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เทศบาลหัวหิน ซึ่งตั้งเป้าหมายเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะครบถ้วนตามเป้าหมาย 70% ของประชากรในพื้นที่ภายใน 30 กันยายน 2564 เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ พนักงานและแรงงานในภาคธุรกิจบริการกว่า 89,000 คนในพื้นที่ให้มีรายได้เพิ่มเติม เพราะปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวซบเซามาก” นายกรด กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และตอบรับแผนหัวหิน รีชาร์จ นี้แล้ว รับปากในการจัดหาวัคซีนตามแผนที่เสนอไป