รีเซต

SAPPE ความต้องการซื้อสูง ต้นทุนเพิ่ม โบรกแนะซื้อแต่ลดราคาเป้าหมาย

SAPPE ความต้องการซื้อสูง ต้นทุนเพิ่ม โบรกแนะซื้อแต่ลดราคาเป้าหมาย
ทันหุ้น
22 พฤศจิกายน 2566 ( 11:39 )
44

#SAPPE #ทันหุ้น - SAPPE มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ อุปสงค์ยังดีต่อเนื่อง แต่มีต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

 

บล.กสิกรมีมุมมองเชิงบวกต่อ SAPPE ด้วยเหตุผล 2 ประการแรก อุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะได้รับการตอบสนองจากการขยายกำลังการผลิตและพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของประเทศผู้ส่งออก แม้ว่าจะมีการหยุดงานประท้วงอย่างต่อเนื่องในฝรั่งเศส ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายในฝรั่งเศสไตรมาส 3/2566 แต่ผลกระทบดังกล่าวถูกห้กล้างด้วยประสิทธิภาพการขายที่แข็งแกร่งในสหราชอาณาจักรและส่วนที่เหลือของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงยอดขายที่หลากหลายของ SAPPE จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่ในทางกลับกัน เราคาดกำไรสุทธิปีหน้าจะไม่เดิบโตแข็งแกร่งเหมือนในปีนี้จากราคาวัตถุดิบ ได้แก่ ราคาน้ำตาล และ เม็ดพลาสติก

 

SAPPE มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) อุปสงค์ทั่วโลกของน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว Mogu Mogu ยังคงแข็งแกร่งกับประเทศกลุ่มดาวรุ่งดวงใหม่ที่ SAPPE ได้ให้คำนิยามเอาไว้อย่าง อินเดีย และสหราชอาณาจักร 2) ตั้งเป้ายอดขายปี2567 ให้เติบโต 20%-25% หนุนโดยตลาดทั้งในและต่างประเทศ 3) แม้ว่าการประท้วงในฝรั่งเศสจะทำให้เกิดการสะสมของสต๊อกสินค้าที่ผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่น แต่อัตราการซื้อของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับสูงในไตรมาส 3/2566 4) ราคาน้ำตาลและเม็ดพลาสติ๊ก PET ของ SAPPE จะเพิ่มขึ้น 20%-25% และ 5%-10% ในปี 2567 5) SAPPE ตั้งเป้าในการใช้จ่ายด้านกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้นในปี 2567 6 ) เครื่องจักรใหม่ในปี 2567 และ 2568 จะเพิ่มกำลังการผลิตรวม 25% ต่อT 7) ผู้บริหารคาดว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเครื่องจักรระดับล้ำสมัยจะทำให้การประหยัดต่อขนาดและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเพื่อชดเชยผลกระทบจากวัตถุดิบที่มีราคาแพง โดยหวังว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ไว้ที่ 45% ในปี2567

 

บล.กสิกรปรับคำแนะนำให้ "ซื้อ" จาก "ถือ" SAPPE แต่ลดราคาเป้าหมายเป็น 95.9 บาท จาก 99.6 บาท เนื่องจากเราลดตัวคูณ PER จาก +2SD เป็น +1SD สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ 20 เท่า เพื่อสะท้อนแนวโน้มการเติ๊บโตที่จะไม่แข็งแกร่งเหมือนอย่างในปี้นี้ อย่างไรก็ตาม SAPPE เป็นหุ้นมีคุณภาพดีที่สุดในบรรดาบริษัทคู่แข่ง โดยมี PER ล่วงหน้าที่ต่ำกว่า ROE ที่สูงกว่า และ NPM ที่สูงกว่าบริษัทคู่แข่ง

 

ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในอนาคตอาจเป็น 1) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพงมากนัก โดยซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 17.2 เท่า และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรสุทธิระหว่างปี 2566-68 ที่

16.3% 2) downside risk ที่จำกัดจากราควัตถุดิบที่สูงขึ้นไป มีผลกระทบน้อยต่อประมาณการกำไรโดยรวม และ 3) ความต้องการทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากกลยุทธ์ของ

SAPPE ในการขยายความครอบคลุมไปยังประเทศต่างๆ และจำนวนร้านค้าในแต่ละประเทศ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง