SINGERดันลูกเข้าตลาด พอร์ตสินเชื่อ 65 โต50%
ทันหุ้น – SINGER เตรียมดัน "เอส จี แคปปิตอล" บริษัทย่อยเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ประมาณไตรมาส 3/2565 ระดมทุนปล่อยสินเชื่อไฟแนนซ์ เพื่อขยายพอร์ตให้เพิ่มขึ้น ด้านแผนธุรกิจปี 2565 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 50% ราว 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าผลประกอบการจะนิวไฮ ด้านโบรกปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีหน้าและราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยถึง แผนการ Spin-Off ในการนำบริษัท เอส จี แคปปิตอล จำกัด หรือ SGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งคาดว่าจะยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ภายในไตรมาส 1/2565 และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายได้ประมาณไตรมาส 3/2565
ทั้งนี้หุ้น IPO ที่จะเสนอขายของ SGC ส่วนหนึ่งจะมีการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ SINGER ด้วย ตามสัดส่วนการถือหุ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนที่จะจัดสรรต้องหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินก่อน ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นบริษัท เอส จี แคปปิตอล มีแผนที่จะนำไปใช้ในการปล่อยสินเชื่อไฟแนนซ์ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ
*เข็นบ.ลูกเข้าตลาดปีหน้า
อนึ่ง SINGER เคยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัท เอส จี แคปปิตอล ซึ่งประกอบธุรกิจเช่าซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จักรเย็บผ้า สินค้าเชิงพาณิชย์ สินเชื่อรถทำเงิน และเช่าซื้อเครื่องจักร เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 820 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25.1%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดย SINGER ถือหุ้น 99.99% หลัง IPO สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงมาอยู่ที่ 74.9%
โดยมองว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อเป็นการลดภาระในการสนับสนุนด้านเงินทุน เนื่องจาก SGC สามารถระดมทุนได้เองผ่านการขายหุ้น IPO และสามารถระดมทุนผ่านช่องทางตลาดทุนหรือช่องทางอื่นด้วย รวมถึงราคาหุ้นของบริษัท อาจจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของเงินลงทุนใน SGC ได้มากขึ้น เนื่องจากมีราคาตลาดอ้างอิงสำหรับหุ้นของ SGC
*ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 50%
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของ SINGER แผนดำเนินธุรกิจในปีหน้า ได้ตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%จากปีนี้ โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท และในปีหน้าจะเติบโตมาอยู่ที่ 1.5-1.6หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันบริษัทก็มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ส่วนผลดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ และคาดว่าทั้งปี 2564ผลประกอบการของบริษัทจะสามารถทำระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการ Synergy กับบริษัท แฟนสลิงค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท วีจีไอ จำกัด(มหาชน) หรือ VGI โดยได้นำสินค้าของบริษัทแฟนสลิ้งค์ เข้ามาจำหน่ายในสาขาของ SINGER เช่น เครื่องดูดฝุ่น, กล้องวงจรปิด และสินค้าเกี่ยวกับด้านไอทีเป็นต้น ทำให้บริษัทแฟนสลิ้งค์ มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของ SINGER ก็ได้รับผลดี ในด้านของผลิตภัณฑ์สินค้าในสาขาจะมีความหลากหลายมากขึ้น และทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับผลตอบแทน จากการให้สินเชื่อในการซื้อสินค้าของแฟนสลิ้งค์ ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะนำเหรียญ JFIN คอยน์ นำมาใช้ในการซื้อขายสินค้าในกลุ่ม
*ปรับเพิ่มกำไร-ราคาเป้าหมาย
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อหุ้น SINGER โดยได้ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 58 บาทต่อหุ้นจากเดิมที่ 47 บาทต่อหุ้น พร้อมปรับประมาณการกำไรของปี 2565 เพิ่มขึ้น 8% มาอยู่ที่ 1.15 พันล้านบาท เติบโต 73% จากปีนี้ ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจาก รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 25% และลด Cost to Income ลงเล็กน้อย เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าใช้จ่ายดำเนินงานในอนาคตที่จะทยอยปรับตัวลงจากความร่วมมือกับ GUNKUL และ JMART ที่จะมีการติดตั้ง Solar Rooftop ในสาขาของ SINGER เพื่อลดค่าไฟ
ขณะที่คงประมาณการสินเชื่อที่จะขยายตัว 56% จากปีนี้ จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีแหล่งเงินทุนที่สูง เพื่อรองรับการขยายตัว รวมถึงธุรกิจการขายสินค้ามีโอกาสเติบโต 8% จากการ Synergy กับกลุ่ม BTS ในด้านเพิ่มสินค้าที่จำหน่าย จากสินค้าแบรนด์ Xiaomi, Amaxfit ผ่านความร่วมมือกับแฟนสลิ้งค์ รวมถึงความรวดเร็วในการขนส่งสินค้าผ่านเครือข่ายของ KEX รวมถึงบริษัทก็มีการเพิ่มช่องทางทารจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในรูปแบบสินค้าเงินสด และเงินเชื่อ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบให้สามารถให้สินเชื่อออนไลน์