TNP จ่อปิดปีสุดปัง รับมาตรการรัฐหนุน กำไร Q4 เล็งนิวไฮ

#TNP #ทันหุ้น - TNP แจ้งงบ 9 เดือน กำไรสุทธิ 148.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจไตรมาส 4 คึกคัก มาตรการรัฐหนุน เชื่อปิดปีแกร่ง ฟากโบรกดีดลูกคิดกำไรโค้งท้าย แตะ 61 ล้านบาท โต 21% YoY พุ่งทำนิวไฮ แนะ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสมปี 2569 ที่ 4.30
ภญ.อมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้นำธุรกิจค้าปลีก–ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ในภาคเหนือ เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการขาย 731.10 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 47.66 ล้านบาท
9 เดือนโต10%
สำหรับงวด 9 เดือนแรก มีรายได้จากการขาย 2,196.49 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 148.53 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมลดลงจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว
โดยปีนี้ได้เปิดสาขาใหม่ 6 สาขา ได้แก่ สาขาดอยหลวง สาขาแม่จัน (2) สาขาหนองบัวแดง จ.เชียงราย สาขาเจดีย์แม่ครัว และสาขาสันทรายน้อย จ.เชียงใหม่ ปิดท้าย ปี 2568 สาขาแม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จากปัจจุบันในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 มีสาขาทั้งหมด 53 สาขา และคาดว่าจะครบ 56 สาขา ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 คาดว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน คือ เป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจที่มีหลายเทศกาล ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น และได้รับอานิสงส์จากนโยบายของรัฐบาลในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่ง TNP ได้รับประโยชน์จากประชาชนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับผลบวกโดยตรงจากโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการพิเศษสำหรับเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ปี 2568 ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงินเพิ่มอีก 850 บาทต่อคนต่อเดือน รวมสิทธิเพิ่มเป็น 1,150 บาทต่อคนต่อเดือน
เป้าไกล 4.30 บ.
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยถึง ทิศทางของ TNP ว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2568 คาดกำไรสุทธิราว 61 ล้านบาท เติบโต 21% YoY และ 29% QoQ ทำระดับ New High จากปัจจัยหนุนหลัก 3 ประการ ได้แก่ การขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง รวมเป็น 57 สาขา ณ สิ้นปี 2568 โดยเน้นพื้นที่เมืองรองที่มีกำลังซื้อสูง
การเข้าสู่ High Season ของธุรกิจค้าปลีก และมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะการเพิ่มวงเงิน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เป็น 1,150 บาทต่อคนต่อเดือน (จากเดิม 300 บาท) เป็นเวลา 2 เดือน (พ.ย.–ธ.ค. 68)
แม้มาตรการ “คนละครึ่งพลัส” TNP ไม่สามารถเข้าร่วมได้โดยตรง แต่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากการที่ผู้ค้ารายย่อยเข้ามาซื้อสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ ทั้งนี้ SSSG เดือน ตุลาคม–ต้น พฤศจิกายนเริ่มกลับมาเติบโต 3–5% แล้ว
ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2568 ลงเล็กน้อย 3% เหลือ 210 ล้านบาท (+13% YoY) หลังจากไตรมาส 3/2568 ต่ำกว่าคาด ส่วนปี 2569 คาดกำไร 229 ล้านบาท (+9% YoY) จากการขยายสาขาใหม่อีก 5 แห่ง รวมเป็น 62 สาขา
คำแนะนำการลงทุน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสมปี 2569 ที่ 4.30 บาท อิง Prospective P/E 15 เท่า (ระดับ -1SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) โดยคาด EPS ปี 2569 ราว 0.29 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Upside จากราคาปัจจุบันราว 54% พร้อม Dividend Yield ราว 4–5% ต่อปี
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
