รีเซต

"จุรีพร" ควงทนายแจงปมคลิปแรมโบ้ แฉเป็นการวางแผนทำลาย พร้อมเดินหน้าเอาผิดทุกคนที่ทำให้เสียหาย

"จุรีพร" ควงทนายแจงปมคลิปแรมโบ้ แฉเป็นการวางแผนทำลาย พร้อมเดินหน้าเอาผิดทุกคนที่ทำให้เสียหาย
มติชน
20 เมษายน 2565 ( 17:35 )
88

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้( 20 เม.ย. 65) ณ ที่ทำการสาขาพรรคพลังประชารัฐ ริมถนนเลี่ยงเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด นางจุรีพร สินธุไพร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเฉลิมพล ระดาพัฒน์ ทนายความประจำตัว เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ด้วยการนำเอารองเท้าแบรนด์เนม กุซชี่ แบบหญิง และรองเท้าแบรนด์เนม หลุยส์ วิตตอง แบบชาย ออกมาโชว์ กับสื่อมวลชนและประชาชนที่มาให้กำลังใจที่สาขาพรรค

 

พร้อมแถลงข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดข่าวคลิปเสียคุยกับแรมโบ้ จนเป็นเรื่ออื้อฉาวตามที่ปรากฏทางสื่อมาอย่างต่อเนื่อง โดยนางจิราพร สินธุไพร กล่าวว่า จากการเป็นข่าวทำให้ตนเองเสียหายไม่หยุด จึงได้เปิดแถลงข่าวข้อเท็จจริง เพื่อให้สาธารณชนเลิกเข้าใจผิด ถึงเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ แต่เป็นการกลั่นแกล้งทำลายกันทางการเมืองเพื่อดิสเครดิตตนเอง รวมไปถึงทำลายพรรค จึงเปิดแถลงข่าวขึ้นที่บ้าน เพื่อเปิดเผยความจริง ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้น น่าเป็นการวางแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี จากบุคคล 2 คน คือ 1 นายกิ๊ก สุดสยาม มากแก้ว และพี่สาว ชื่อ น๊อต ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อ ที่ อ.อาจสามารถ ร้อยเอ็ด เดินทางมาพบตนที่บ้านเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

 

มาพบด้วยการนำเอารองเท้าแบรนด์เนมผู้หญิงมาฝากตน อ้างว่าทราบว่าตนเองจะสั่งทำเสื้อกีฬา จึงมาขอเสนอตัวทำเสื้อให้ เนื่องจากมีโรงงานผลิต แต่ยังไม่ทันตกลงกัน เพราะตนเองกำลังจะทำเสื้อจริง แล้วสาวที่ชื่อน๊อต ยังอ้างว่า สนิมกับรองปลัดกระทรวงท่านหนึ่งที่ดูแลด้านการจัดสรรงบประมาณทำถนนให้ได้ หากต้องการก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ แถมยังอ้างว่าเป็นคนคุ้ยเคยกับ บริษัทปุ๋ยเคมี ยินดีจะให้ความร่วมมือ ซึ่งตนก็เพียงแต่รับฟังโดยไม่ได้สนใจอะไร

 

และต่อมา ก็นำรองเท้าแบรนด์เนมชายอีกยี่ห้อมาฝากสามี ซึ่งตนก็ไม่เอะใจอะไร แต่ก็รับไว้แบบงงๆ ที่จู่คนไม่รู้จักนำของราคาแพงมาฝาก ทั้งๆที่จะมาติดต่อขายเสื้อ จนกระทั่งเกิดเหตุเรื่องคลิปขึ้น จึงมานึกย้อนได้ว่าเป็นความผิดปกติ และที่น่าสงสัยขึ้นไปอีก คือหลังจากตนเองตกลงจะซื้อเสื้อตามออเดอร์ แจ้งกลับไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม กลับไม่มารับออเดอร์ แต่กลับเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการวางแผนไว้ก่อน เป็นอย่างดี เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่จู่ๆคนไม่รู้จักกันมาก่อน จะเอาของแพงๆมาฝาก และอ้างโน่นนี่นั่น รวมทั้งอ้างจะมารับออเดอร์เสื้อ แต่พอเรียกให้มารับกลับไม่มา จึงมาฉุกคิดได้ว่าอาจจะเป็นแผนการที่แฝงตัวเข้ามาทำลายความน่าเชื่อถือของตน จนเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้น เพื่อดิสเครดิตกันทางการเมือง จากความไม่ประสงค์ดีมากกว่าอย่างอื่น เพราะตอนหลังหายไปแล้วก็เกิดเครื่องคลิปเกิดขึ้น

 

ดังนั้นจึงแถลงข่าวยืนยันความคืบหน้าว่า ทุกอย่างมีเบื้องหลัง และยืนยันว่า คลิปที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาของการกระทำเพื่อทำลายกัน แล้วเปิดช่องให้สื่อนำไปเสนอข่าวโจมตี ให้เสียหายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ยอมเลิก รวมทั้งหลังจากเกิดเหตุคลิปครั้งแรกแล้ว ก็เกิดคลิปครั้งที่ 2 ตามมา ที่เป็นเสียงของนายกิ๊ก กะตนเองแพร่ออกมาอีก แล้วเปิดช่อง ให้สื่อโจมตีไม่หยุด ว่าเป็นการวางแผนแก้เกี้ยวและแก้ข่าว โดนสร้างคลิปที่ 2 ปล่อยออกมาเอง เพื่อสมอ้างว่า ตนเองไม่ได้มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่นั้น

 

นางจุรีพร รับว่าคลิปที่ 2 นั้นตนเองทำขึ้นจริง ระหว่างคุยกับนายกิ๊ก เพื่ออยากจะค้นหาความจริง ดูว่านายกิ๊กจะรับหรือไม่ ซึ่งในที่สุด ล่าสุด นายกิ๊กก็ยอมรับแล้วว่าเป็นคนปล่อยคลิปแล้วจริงๆ ซึ่งเมื่อสารภาพแล้วก็อยู่ในขั้นตอนกระบวนการที่จะให้ทนายดำเนินการตามกฏหมาย กับคนที่ทำให้ตนเองเสียหายต่อไปจนถึงที่สุด และยืนยันไม่เคยคิดเอี่ยวแสวงผลประโยชน์จากการค้าสลากจากแรมโบ เพราะทำไม่เป็น และตนก็มีอาชีพอยู่แล้ว

 

ซึ่งนางจุรีพร กล่าวยืนยันว่า ทุกอย่างตนเองทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังกับแรมโบ้ คุยกันเรื่องสลากกินแบ่งก็แค่การพูดคุยกันเฉยๆ ไม่เกี่ยวกับว่าตนเองต้องการเข้าไปมีส่วนร่วม หรือผลประโยน์ด้านกาขอ หรืออยากได้โควตาสลากกินแบ่งจากแรมโบ้ แต่อย่างใด เพราะตนเองมีอาชีพอื่นอยู่แล้ว และไม่คิดที่จะอยากเป็นค้า หรืออยากได้โควต้าแต่อย่างใด เพราะตนเองทำไม่เป็นและไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะอยากได้โควตาสลากกินแบ่งแต่อย่างใด จึงอยากจะแถลงข่าวให้ทุกคนเข้าใจตนเอง และฟังตนเองบ้าง อย่าฟังแต่คน อีกฝ่ายที่จ้องทำลายตนเองแต่เพียงฝ่ายเดียว

 

ในขณะที่ นายเฉลิมพล ระดาพัฒน์ ทนายความประจำตัวฯ กล่าวว่า ในช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อที่จะเตรียมดำเนินการตามกฎหมายของเหตุที่มีการเข้าข่ายพยายามทำให้เสียชื่อเสียง และสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเสียหายกับนางจุรีพร สินธุไพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่อยู่ในข่ายทำให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งทนายความของอีกฝ่าย และ พ.ต.ต.เสรี เตมียเวส และทุกๆคน ที่ออกมามาพูดเรื่องนี้ ก็อยู่ในข่าย ที่จะต้องมีการตรวจสอบ ว่าเข้าข่ายหรือไม่ รวมไปถึงสื่อมวลชนต่างๆหลายคน หลายสำนัก ก็อยู่ในข่ายที่จะต้องตราจสอบ หากเข้าข่าย ทำให้เกิดความเสียหาย ก็จะนำเข้าสู่การดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายจนถึงที่สุด
ซึ่งที่ชัดเจน คือ สื่อรายการที่มีชื่อว่าหมาแก่ และแมวสาว ที่ชัดเจนมากว่าหมิ่นเหม่ต่อการเสนอข่าวที่ทำนางจุรีพร สินธุไพร เสียหาย ก็อยู่ในข่ายที่จะต้องตรวจสอบด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง