“ศุภจี” เดินหน้า ลดค่าครองชีพ ดันเศรษฐกิจฐานราก ธงฟ้า-ราคา-คนละครึ่ง

ศุภจี เดินหน้า ดันเศรษฐกิจฐานราก ดูแลราคาเกษตรผันผวน ค่ารักษาพยาบาล ลดค่าครองชีพ
“นางศุภจี สุธรรมพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเร่งดำเนินการนโยบายเศรษฐกิจ ของกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า ปัจจุบันต้องให้ความสำคัญและเฝ้าระวังความผันผวนของสินค้าเกษตรกร ต้องดูความสมดุลและความเสถียรภาพเรื่องราคา และดูแลรายได้เกษตรกร
สำหรับมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินมาตรการดูแลในขณะนี้ ได้แก่
- การดูดซับผลผลิตส่วนเกินออกจากระบบตลาด เพื่อลดแรงกดดันด้านราคาและป้องกันสินค้าเกษตรราคาตก
- การลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ผ่านโครงการ “ธงเขียว” ที่มุ่งลดต้นทุนเกษตรกรช่วยเหลือในด้านค่าปุ๋ยและปัจจัยการผลิต อย่างต่อเนื่อง
- การประสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้หลากหลายและเข้าถึงตลาดใหม่
นอกจากนี้ อีกหนึ่งเรื่องสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ คือ การเร่งลดภาระค่าครองชีพประชาชน รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำมาตรการระยะสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว เช่น โครงการคนละครึ่ง คนละครึ่งพลัส
โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ยังคงดำเนินการ“มาตรการธงฟ้า” โดยเฉพาะพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนระหว่างไทยกัมพูชา ซึ่งตนเองได้มีโอกาสลงไปดูที่พื้นที่ไปช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้สั่งให้พาณิชย์จังหวัด ช่วยดูแลผู้ประกอบการและประชาชนในบริเวณนั้นมีความต้องการความช่วยเหลือใดๆเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ยังมีมาตรการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายประชาชนเรื่องสุขภาพ ตอนนี้ได้ทำงานร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการเปิดราคายาอย่างโปร่งใส ให้กับประชาชนที่เข้ามารับรักษาพยาบาลได้เห็นราคายาก่อนจ่าย และสามารถที่จะปฏิเสธไม่ซื้อยาที่โรงพยาบาล แต่ว่าไปซื้อที่ร้านค้าข้างนอก เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้
ซึ่งถามว่าจะส่งผลกระทบให้กับโรงพยาบาลเอกชนหรือไม่ รัฐมนตรีพาณิชย์ย้ำว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการเป็นลักษณะสมัครใจ ไม่ได้บังคับ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลในสมาคมโรงพยาบาลเอกชน สนใจเข้าร่วม 5 เครือ มีโรงพยายาบประมาณ 100 กว่าแห่ง
และมองว่าเมื่อประชาชนมีสิทธิ์ในการไปซื้อยาข้างนอกได้ ประชาชนก็มีโอกาสที่จะมารับบริการเพิ่มที่โรงพยาบาลเอกชน ดังนั้นจำนวนคนที่เข้ามาในโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมในโครงการนี้ก็จะมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้ลดความแออัดของโรงพยาบาล และทางภาครัฐด้วยเช่นกัน นับเป็นการช่วยเหลือทุกฝ่าย ทั้งประชาชน และโรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลภาครัฐ
อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการระยะสั้นๆ ในช่วงระยะเวลา 4 เดือนนี้ ในการที่จะช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องของค่าครองชีพของประชาชนโดยทั่วไป
นอกจากนี้ นางศุภจี เปิดเผยเรื่องการส่งออกที่ค่อนข้างชะลอตัว ระบุว่าตอนนี้เราจะเร่งเจรจาในเรื่องของ จีทูจี ในหลายๆประเทศ เพื่อช่วยให้เราสามารถจะระบายสินค้าส่งออกไปได้ เช่น จีน ซึ่งตอนนี้พยายามเจรจาส่งออกข้าวจีทูจี 500,000 ตัน
นอกจากนี้ยังมีการเจรจาจีทูจีกับญี่ปุ่นและสิงคโปร์ เพื่อให้เราสามารถที่จะหาตลาดส่งออกได้ รวมถึงการหาตลาดส่งออกใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียใต้ ซึ่งจะช่วยผลักดันในเรื่องของสินค้าส่งออก ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภค
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
