สลดผู้กักกันโควิด เครียดดิ่งชั้นแปดโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในย่านท่าน้ำพระประแดงดับ
สลดผู้กักกันโควิด วัย 51 ปี เครียดดิ่งชั้นแปดโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในย่านท่าน้ำพระประแดง ร่างกระแทกระเบียงชั้น 2 ดับ ด้านเจ้าหน้าที่สวมใส่ชุดป้องกัน เคลื่อนย้ายศพ ก่อนนำน้ำยาฆ่าเชื้อมาทำการฉีดพ่นในจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันการแพร่กรจายของเชื้อ
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 13 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกกักกันต้องสงสัยติดเชื้อโควิด 19 ที่ถูกกักตัวสังเกตอาการอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในย่านท่าน้ำพระประแดง ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ กระโดดลงมาจากชั้น 8 ลงมาเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณชั้นที่ 2 ของโรงพยาบาลดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูชุดเผชิญโควิด พร้อมอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุได้พบศพชายชาวจังหวัดนราธิวาส อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกส่งมากักตัวสังเกตอาการการรับเชื้อโรคโควิด 19 นอนจมกองเลือดคว่ำหน้าอยู่ที่ระเบียงชั้น 2 นอกอาคารในสภาพสวมกางเกงยีนส์เพียงตัวเดียวไม่สวมเสื้อ หลังทีมแพทย์ได้ร่วมพลิกศพเป็นที่เรียบร้อยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูทีมเผชิญโควิด ได้ใช้ถุงพลาสติกทำการห่อศพ 2 ชั้นและทำการปิดซีนอย่างดีป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค นำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นผู้ถูกกักตัวที่เดินทางกลับมาจากการประกอบกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย เข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ และถูกส่งตัวมากักตัว สังเกตการรับเชื้อโควิด 19 เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งผู้ตายเข้ามากักตัวตรวจหาเชื้อโควิดได้ 13 วันแล้ว เหลืออีกเพียงวันเดียวก็จะถูกปล่อยตัวกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนราธิวาสแล้ว เนื่องจากผลการตรวจออกมาเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งระหว่างที่ผู้ตายถูกส่งตัวมาสังเกตอาการทางโรงพยาบาลได้จัดให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อ ที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ ซึ่งจะมีผู้ที่ถูกกักกันทั้งหมด 4 ราย ระหว่างนั้น ผู้ตายได้เกิดอาการคุ้มคลั่งอาละวาดขึ้นจนถูกผู้ที่ถูกกักกันรายอื่นไล่ออกมาจากห้อง จากนั้นผู้กักกันที่เหลือจึงล็อกประตูจากด้านในไม่ให้ผู้เสียชีวิตเข้าห้อง จึงทำให้ผู้ตายเกิดความเครียดและทุบทำลายข้าวของ พยาบาลที่เข้าเวรได้พยายามเข้ามาห้าม แต่เอาไม่อยู่ เนื่องจากมีแต่พยาบาลผู้หญิง จนต้องเรียกเจ้าหน้าที่ รปภ. ขึ้นมาช่วย โดยเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์และพูดคุยปลอบใจ ผู้ตายเนื่องจากกำลังจะได้กลับบ้านเช้าวันนี้ แต่ผู้ตายกลับปีนออกไปทางหน้าต่างและกระโดดลงมาจากชั้น 8 ตกลงมาที่ระเบียงชั้น 2 ของอีกอาคารข้างๆกัน เสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเบื้องต้นหลังทำการเคลื่อนย้ายศพของผู้ตายออกจากที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ใส่ชุดป้องกันและนำยาฆ่าเชื้อมาทำการฉีดพ่นในจุดที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคดังกล่าว