กกล.บูรพาเข้าปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่อธิปไตยไทย พื้นที่ จ.สระแก้ว

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพา เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมพร้อมรบสูงสุดตามแนวชายแดน ในพื้นที่ จ.สระแก้ว มีการตรวจพบเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์  รวมถึงอาวุธหนักเข้าที่มั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเฝ้าติดตามฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด

จนกระทั่งตลอดห้วงเช้าของวันนี้ ได้รับรายงานการเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดน ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของไทย รวมทั้งสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชา

กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา จึงเข้าปฏิบัติการทางทหารยึดคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณชายแดน จ.สระแก้ว ความคืบหน้าของสถานการณ์จะรายงานให้ทราบต่อไป

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอใกล้แนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว เป็นไปอย่างเงียบสงัด หลังประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แล้วกว่า 90% จากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ยังคงตึงเครียดและมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้การเคลื่อนย้ายประชาชนเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

รายงานล่าสุดระบุว่า ถนนภายในหมู่บ้านหลายสายแทบไร้ผู้คนและยานพาหนะ บรรยากาศโดยรอบโล่งผิดปกติ เนื่องจากรถของชาวบ้านได้ใช้เส้นทางอพยพออกจากพื้นที่เกือบทั้งหมด

 อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนบางส่วนที่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะฝูงวัว - ควายจำนวนมากที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทันเวลา หลายครอบครัวตัดสินใจขังสัตว์ไว้ในคอกอย่างแน่นหนาและใส่กุญแจ ก่อนจะเก็บสัมภาระจำเป็นและเดินทางไปยังศูนย์พักพิงที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ 

ขณะที่บางครอบครัวเลือกหลบอยู่ในบังเกอร์ภายในหมู่บ้าน พร้อมจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างรอคำสั่งเพิ่มเติม

ด้านการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และผู้นำชุมชน ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด มีการตั้งจุดตรวจ เวรยาม และออกลาดตระเวนรอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน และแจ้งเตือนประชาชนที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชน เจ้าหน้าที่กู้ภัยอรัญประเทศได้ลงพื้นที่สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการเดินทาง มีการระดมรถพยาบาลและรถกู้ภัยหลายคัน เพื่อนำส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์อพยพและสถานพยาบาลที่จังหวัดกำหนด ซึ่งมีการเตรียมเตียง อาหาร และพื้นที่รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน จังหวัดสระแก้วได้ประกาศปิดให้บริการโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนทั้ง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ และอำเภอคลองหาด โดยจะเปิดให้บริการเฉพาะแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน (ER) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยอาการหนักและผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง จะมีการทยอยเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่โดยชุดแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อส่งต่อรักษายังโรงพยาบาลนอกเขตเสี่ยงในจังหวัดใกล้เคียง

จังหวัดสระแก้วย้ำขอให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการอพยพและปฏิบัติตามแผนความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์และการดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด