เปิดทางรอด!ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ยุคโควิด-19 ทำแบบนี้ไม่ร่วง!

       สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคปรับเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ เกิดนิยามของคำว่า "New Normal" หรือวิถีปกติใหม่ ที่หลายคนเริ่มคุ้นเคยและเข้าใจความหมายของมันมากขึ้น บรรดาธุรกิจต่างๆก็ต้องปรับตัวกันไปตามยุคและสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปด้วย 

        ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดหนักทำให้เราจำเป็นต้องอยู่บ้านมากขึ้น ด้วยมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่งผลให้กิจกรรมทางธุรกิจต่างๆต้องหยุดชะงัก ดังนั้นช่องทางออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่บรรดาแบรนด์หรือสินค้าต่างๆใช้เป็นช่องทางเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีที่สุด 

โควิด-19 ทำให้ได้เห็นการพัฒนาของตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ 

        คุณปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร  หัวหน้าฝ่ายการตลาด ของ TikTok  กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คนในปัจจุบันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เดลิเวอรี่ การส่งอาหาร , การเรียกบริการรถ , การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ หรือแม้กระทั้งการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจ ภาพรวมตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ในตอนนี้นอกจากเห็นการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้คนมากขึ้นแล้ว ในอนาคตเราอาจจะเห็นอะไรที่อออกมาแก้ Pain Ponit ของผู้คนได้อีกเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

จุดแข็งที่ได้เปรียบแพลตฟอร์มอื่น

        แพลตฟอร์ม TikTok  ถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการใช้งานที่ง่าย เหมาะกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างไม่จำกัด และยังสามารถสร้างให้คนธรรมดากลายเป็นครีเอเตอร์ดาวเด่นได้อย่างไม่ยาก  โดยแพลตฟอร์มจะสามารถจับความสนใจของผู้คน และคัดสรรคอนเทนต์ที่โดนใจตามความสนใจของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป  อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์กระแสของคอนเทนท์รูปแบบ Short Form Video สร้างสรรค์และมีส่วนร่วมกับ Challenge ดัง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดหรือกิจกรรมทางออนไลน์ที่กำลังมาแรง และตอบโจทย์ผู้ใช้ในปัจจุบัน 

ถ้าโควิด-19 กลับมาระบาด แพลตฟอร์มออนไลน์จะปรับตัวได้ทันที

        ที่ผ่านมาจากการสรุปเทรนด์สุดฮอตประจำปี 2019 จะพบได้ว่าคนไทยนิยมเล่น TikTok ในช่วงเทศกาลมากที่สุด อาทิ เทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์ รวมถึงวันหยุดยาว  สอดคล้องกับในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในการอยู่บ้านหรือ Work From Home มากขึ้น หากโควิด 19 กลับมาระบาดอีกครั้ง   คุณปกรณ์ มองว่า แพลตฟอร์มออนไลน์จะได้รับผลกระทบในเชิงบวก เนื่องด้วยผู้คนจำเป็นที่จะต้องใช้ช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆในการรับข้อมูลข่าวสาร หรือ แม้แต่การอัปเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆที่จำเป็น ซึ่ง TikTokเองเรามี #TikTokNews ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับทราบข้อมูลข่าวสาร พร้อมอัปเดทสถานการ์ได้อย่างทันที โดยที่ผ่านมามีสื่อชั้นนำในประเทศไทยต่างเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งบนแพลตฟอร์ม

ต้องปรับแผนการทำงานหากโควิด-19 กลับมาอีก 

        สำหรับ TikTok ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็น่าจะเหมือนกับทุกๆ บริษัท องค์กร ที่ต้องปรับตัว ปรับการทำงานด้วยการ Work From Home กันในทันที  โดยในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาไม่ได้กระทบกับการทำงานเท่าไหร่ เพราะ TikTokถือเป็น Global Company ที่เราทำงานร่วมกันกับทีมงานในหลายประเทศทั่วโลก ผ่านการทำงานแบบ Remote และการ Tele Call เป็นปกติ ซึ่งโปรแกรมที่เราใช้กันในปัจจุบันคือ โปรแกรม Lark ที่เข้ามาช่วยในการทำงานและการจัดการองค์กรผ่านออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ Bytedance ได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ภายในองค์กร และในปัจจุบันได้เปิดให้องค์กรอื่นๆ ได้เข้ามาใช้บริการได้ด้วย

        
        นอกจากการทำงานภายในองค์กรแล้ว สิ่งที่อาจจะต้องปรับตัว คือ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันทำให้กิจกรรม Event ต่างๆ อาจจะไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามปกติ ซึ่งทางทีมก็มีการปรับแผนและใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่ผ่านมาได้มีการจัด Live Concert  ของศิลปินยอดนิยมอย่าง Pok Mindset,  เจ้านาย และรวมถึงการทำรายการในรูปแบบ TikTok Live ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

"New Normal" ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์มีบทบาทต่อผู้คนที่หลากหลาย 

        ช่องทางออนไลน์ และแฟลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้คนในมุมที่หลากหลายมากขึ้น สำหรับ TikTok คิดว่า New Normal ที่จะมีผลทำให้ผู้ใช้เลือกเป็นช่องทางในการสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอสั้นที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในแง่ของความบันเทิง การศึกษา และแบรนด์ต่างๆ ที่หันมาใช้ TikTok 

ออนไลน์ได้ Disrupt ธุรกิจที่เป็นรูปแบบเก่าให้ล้มหายตายจาก!

        เทรนด์วิดีโอสั้นที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน จะเริ่มเข้ามามีบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้นไม่เพียงเฉพาะในทิศทางของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ จากครีเอเตอร์หรือผู้คนทั่วไปเท่านั้น แต่แบรนด์หรือองค์กรต่างๆ จะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอสั้นเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารการตลาดออนไลน์มากขึ้น 

       ซึ่งทุกธุรกิจจะอยู่รอดได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของแต่ละธุรกิจ โดยจะเห็นได้ว่าปัจจุบันออนไลน์ถือเป็นสิ่งที่เข้ามามีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมต่างๆ  มากมายในวงกว้าง และ ปฏิเสธไม่ได้ว่าออนไลน์ได้ Disrupt ธุรกิจที่เป็นรูปแบบเก่าให้ล้มหายตายจากไปมากมาย  แต่ในทางกลับกันหากรู้จักปรับตัวและเลือกนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ก็สามารถทำให้ธุรกิจนั้นไปต่อได้ อย่างเช่น หนังสือพิมพ์ที่ปัจจุบันนี้เริ่มหายไปจากตลาด แต่ก็จะพบได้ว่ามีหลายๆ สำนักพิมพ์ที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการสื่อสารกับผู้คนมากขึ้น รวมถึงการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ปัจจุบันสามารถสื่อสารและเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก

TikTok ต้องการพัฒนา Ecosystem ให้แข็งแรงและยั่งยืน 

        กลยุทธ์สำคัญของ TikTok คือการพัฒนา Ecosystem นี้ให้แข็งแรงและยั่งยืน ด้วย 3 แกนสำคัญ คือ  Content Diversification การสร้างความหลากหลายของคอนเทนท์  , Monetization การสร้างรายได้ และ Brand Safety การส่งเสริมให้แบรนด์และแพลตฟอร์มปลอดภัยกับผู้ใช้งาน

        โดยจะให้ความสำคัญกับทั้ง 3 ข้อ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและตอบโจทย์ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วน ทั้งผู้ใช้งาน, ครีเอเตอร์, แบรนด์ และเอเจนซี่ 

        ในครึ่งปีหลังของปี 63 ในส่วนของ Content Diversification ก็จะเห็นภาพการสนับสนุนทุกรูปแบบบน TikTok  ที่จะไม่จำเพาะอยู่แค่ความตลกเท่านั้น แต่เราจะพบกับ #TikTokUni ที่มีผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ หรือผู้รู้ในแต่ละวงการมาสร้างสรรค์คอนเทนท์แนวสาระบน TikTok

        ในส่วน Monetization แน่นอนว่าในครึ่งปีหลังจะได้พบกับ Ad Product ที่น่าสนใจจาก TikTokแน่นอน

        และในส่วนของ Brand Safe เป็นเรื่องที่เราทำมาโดยตลอด เพื่อทำให้ TikTokเป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยกับผู้ใช้งานทุกคน โดยจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

        รวมไปถึงมุ่งเน้นสร้างงประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้ทั้ง 4 ด้าน คือ Entertainment , Education , LIVE , TikTok News 

ความท้าทายในช่วงวิกฤตโควิด – 19 คือทันสถานการณ์

        ความท้าทายในช่วงการทำงานวิกฤตโควิด – 19 คือการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตรงกับ insight ของคนไทยในช่วงเวลานี้ ที่ในช่วงนี้ lockdown เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่ตรงกับช่วงสงกรานต์เรามีแพลนว่าจะจัดแคมเปญที่เกี่ยวกับสงกรานต์เช่นในทุกปี แต่ปีนี้ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นแคมเปญที่สัมพันธ์กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จากแคมเปญสงกรานต์ กลายเป็นแคมเปญ  #เมษาAtHomeซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนทันทีทันใดให้เข้ากับสถานการณ์ และได้รับกระแสตอบรับจากผู้ใช้ที่ร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างดี จนทำให้ #เมษาAtHomeมียอดวิวรวมสูงถึง 1.8 พันล้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 เปิด 5 เทรนด์โดนใจคนรุ่นใหม่บนแพลตฟอร์มออนไลน์

 ททท.ถกวิธีใช้แพลตฟอร์ม "เที่ยวปันสุข" แนะโหลด "เป๋าตัง-เป๋าตุง" รอไว้

 ส่องไอเดียทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยุค "New Normal"

 เปิดเส้นทางแพลตฟอร์มออนไลน์สร้างสรรค์ ธุรกิจตอบโจทย์ "New Normal"

เกาะติดข่าวที่นี่