ขอนแก่น ยื่นฟ้อง ‘เอกราช ช่างเหลา’ พร้อมพวก ยักยอกเงินสหกรณ์ครู 431 ล้าน
ขอนแก่น – สหกรณ์ครูขอนแก่นฯ ยื่นฟ้อง “เอกราช ช่างเหลา” พร้อมพวก 5 คน ฐานยักยอกทรัพย์ ปลอมสมุดบัญชี และรับของโจร นัดไต่สวนมูลฟ้อง 3 ส.ค.นี้
วันนี้ (17 เม.ย. 63) มีรายงานว่า นายอนุศาสตร์ สอนศีลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้ายื่นฟ้องนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พร้อมพวก ประกอบด้วย นายนพรัตน์ สร้างนานอก นายสมศักดิ์ โคตรรวงษ์ และ นายนิวัติ นิราศสูง ให้ดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร (สมุดบัญชีธนาคาร) รวมทั้ง น.ส.วราภรณ์ พันธ์สาร อดีตเลขานุการฯ นายเอกราช ซึ่งเป็นผู้รับโอนเงินจากบัญชีของนายเอกราชในข้อหารับของโจรต่อศาลอาญาจังหวัดขอนแก่น
ทั้งนี้ นายเอกราช พร้อมพวก 3 คน ที่ตกเป็นจำเลยเป็นผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายเงินจากบัญชีสหกรณ์ฯ ประเภทเงินฝากประจำ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง (เทสโก้โลตัส ฟอร์จูน กรุงเทพฯ) เลขที่บัญชี 144-101- 918-9 ตั้งแต่ พ.ศ.2554 เป็นเงินจำนวน 396 บาท รวมดอกเบี้ยจนถึงปี 2562 เป็นเงินจำนวน 431 ล้านบาท และข้อหาปลอมแปลงเอกสาร (สมุดบัญชีธนาคาร)
ส่วน น.ส.วราภรณ์ พันธสาร จำเลยที่ 5 เป็นอดีตเลขานุการและคนใกล้ชิดของนายเอกราช ที่ได้รับโอนเงินเข้าบัญชี โดยเป็นการยื่นฟ้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยศาลอาญาจังหวัดขอนแก่นได้ลงประทับรับฟ้องเป็นคดีดำเลขที่ 290/2563 และนัดให้มีการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก วันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น.
ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่า คณะกรรมการสหกรณ์ฯ มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการมอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลอาญาจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีกับนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด พร้อมพวก 4 คน เมื่อตอนสายของวันที่ 17 เมษายน 2563 โดยศาลจะได้นัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรกวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ซึ่งจะเป็นการดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นฯ ได้มีการไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
“กระบวนการสอบสวนของตำรวจมีขั้นตอนและรายละเอียดค่อนข้างมาก ทำให้ใช้เวลานาน ขณะนี้เวลาผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว คณะกรรมการสหกรณ์ฯ เห็นว่า น่าที่จะได้ยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงคู่ขนานพร้อมกันไปด้วย เพื่อให้สมาชิกมีความมั่นใจ” ดร.อนุศาสตร์กล่าว
สิ่งที่ตนดำเนินการทั้งหมดเป็นการทำเพื่อประโยชน์สมาชิกสหกรณ์ฯ โดยต้องการให้นายเอกราชได้นำเงินมาคืนให้สหกรณ์ฯ ทั้งหมด ส่วนการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอายุความแต่อย่างใด
ในส่วนกรณีที่นายทะเบียนสหกรณ์ได้สั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่สหกรณ์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 63 และมติของคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินปันผลเฉลี่ยคืนนั้น ตนได้ทำเรื่องอุทธรณ์ไปที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมกับเสนอแผนการดำเนินการกันหนี้เผื่อจะสูญ เป็นเวลา 4 ปีไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตามหลักการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จะใช้เวลาพิจารณา 60 วัน คาดว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ก็จะได้ทราบผลการพิจารณา
“เรากำลังรอคำตอบอยู่ ผมยืนยันว่านายทะเบียนยังไม่ได้สั่งให้คืนโบนัส เพียงต้องการให้สหกรณ์ฯใช้ยอดกำไรสุทธิในการจัดสรรกำไร ตามที่ผู้ตรวจสอบบัญชีให้มีการตั้งค่าหนี้เผื่อจะสูญครอบคลุมตามจำนวนทั้งหมด แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯ มีมติไม่เห็นด้วย” นายอนุศาสตร์กล่าวและว่า
นายเอกราช ช่างเหลา ได้มาเซ็นยอมรับสภาพหนี้และได้นำเอาหลักทรัพย์มาค้ำประกันเพียง 169 ล้านบาท ขาดอยู่จำนวน 262 ล้านบาท ทางผู้ตรวจสอบบัญชีต้องการให้ตั้งค่าหนี้เผื่อจะสูญเต็มจำนวน แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯ ได้ขอผ่อนปรนและเสนอแผนการตั้งค่าหนี้เผื่อจะสูญปีที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ปีที่ 2 จำนวน 50 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 80 ล้าน ปีที่ 4 จำนวน 100 ล้านบาท
“ปี 63 เราจึงตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญไว้ 30 ล้านบาท จึงคำนวณตัวเลขมีกำไรอยู่ที่ 1,126 ล้านบาท แต่ผู้สอบบัญชีให้ตั้งเต็มจำนวน 262 ล้านบาท กำไรจึงจะเหลืออยู่ที่ 894 ล้านบาท ซึ่งนายทะเบียนเคยแจ้งก่อนหน้านี้แล้ว แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯ มีมติไม่ยอม โดยให้ที่ประชุมใหญ่ตัดสิน ”ดร.อนุศาสตร์กล่าว
เมื่อชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นไปร้อง นายทะเบียนสหกรณ์ก็ต้องดำเนินการเพราะไม่เช่นนั้น อาจจะถูกร้องมาตรา 157 ซึ่งไม่ใช่การสั่งคืนโบนัส และคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ได้มีแผนเตรียมการไว้หมดแล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสมาชิกในการปันผลเฉลี่ยคืน
- สหกรณ์ครูขอนแก่นยืนยันไม่กันหนี้สูญเต็มจำนวน หวังให้กำไรคืนสมาชิกสูงสุด
- กมธ.ป.ป.ช. เดินหน้าสอบเงินหายสหกรณ์ครูขอนแก่น
- ชมรมสมาชิกสหกรณ์ครูขอนแก่นท้าเปิดหนังสือรับสภาพหนี้ “เอกราช ช่างเหลา”
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น และคณะ ได้มีการประสานทนายความเพื่อเตรียมที่จะยื่นฟ้องต่อศาลด้วยเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่า การดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนใช้เวลานานกว่า 4 เดือน นับแต่ที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในที่สุด ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นฯ ก็ได้รับความเห็นชอบให้มอบหมายให้ทนายความทำการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาจังหวัดขอนแก่นก่อนที่ชมรมฯ จะได้ดำเนินการ