ฉากทัศน์ต่อไป หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกฯเศรษฐาพ้นตำแหน่ง
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง จากกรณีที่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เคยถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน ส่งผลให้นายเศรษฐาไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ ซึ่งทำให้โหมดการเมืองเปลี่ยนไป และต้องมีกระบวนการสรรหานายกฯและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ผู้ทำหน้าที่นายกฯรักษาการคือใคร?
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 168 บัญญัติว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการประชุมปรึกษากันเพื่อเลือกรัฐมนตรีคนหนึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการ โดยตามกฎหมายไม่ได้ให้นายกฯที่พ้นจากตำแหน่งเป็นผู้รักษาการ ดังนั้น รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งน่าจะถูกเสนอชื่อให้ทำหน้าที่นี้ไปพลางก่อน
ก้าวต่อไปในการเลือกนายกฯใหม่
จากนี้ไป ถ้ายังไม่ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต้องเป็นแคนดิเดตนายกฯที่พรรคการเมืองที่ได้เสียงในสภาไม่น้อยกว่า 25 เสียง เคยแจ้งไว้กับ กกต.ในการเลือกตั้งปี 2566 โดยตอนนี้มีอยู่ 5 คน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยพรรคต่างๆต้องหารือกันเพื่อหาข้อสรุปว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นไปได้ว่า น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อาจถูกเสนอชื่อ เพราะมาจากพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในสภา
ยังมีทางเลือกยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลหาข้อตกลงกันไม่ได้ในการเลือกนายกฯใหม่ หรือเห็นว่าควรให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้ง นายกฯรักษาการก็มีทางเลือกในการยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนครบวาระ ซึ่งจะต้องทำภายใน 5 วันหลังพ้นตำแหน่ง จากนั้นกกต.จะจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด
ภาพรวมของรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่แน่ชัด
หากมีการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่โดยไม่ยุบสภา แม้มีแคนดิเดตนายกฯที่ถูกเสนอชื่อมาแล้ว แต่ภาพรวมของรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่แน่ชัด เพราะต้องรอดูว่าแคนดิเดตนายกฯที่มาจากพรรคใดจะได้รับการโหวต และพรรคนั้นจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไร ซึ่งอาจมีการเจรจาต่อรองกันอีกหลายรอบโต๊ะ
การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำให้ฉากทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนไปครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเกิดการเลือกนายกฯใหม่ผ่านการโหวตในสภา หรือมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายต่างๆออกมาในช่วงที่เหลือก่อนครบวาระ ทำให้ต้องจับตาติดตามกระบวนการทางการเมืองในระยะต่อไปอย่างใกล้ชิด ว่าพรรคต่างๆจะเคลื่อนไหวอย่างไร ข้อตกลงทางการเมืองจะเป็นอย่างไร เพื่อนำไปสู่ภาพรวมของรัฐบาลใหม่ที่เกิดขึ้นในอนาคต
ภาพ รัฐบาลไทย