วอนรัฐทบทวนยกเลิกเตา IF ชี้กระทบเหล็กไทย–เสี่ยงรัฐจ่ายค่าโง่

วอนรัฐทบทวนข้อเสนอเลิกระบบ IF ชี้กระทบอุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่–รัฐเสี่ยงเสียค่าโง่
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเผยว่า ภายใต้นโยบายเร่งงานของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในช่วงก่อนยุบสภาต้นปี 2569 กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับโจทย์ให้ดำเนินงานโปร่งใสและตรวจเข้มมาตรฐานเหล็กในประเทศ โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันว่าเหล็กที่ผ่านการตรวจสอบจะถูกปลดอายัดอย่างเป็นธรรม ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีอาคาร สตง. ถล่ม และสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ท่ามกลางกระแสนี้ มีบางฝ่ายเสนอให้รัฐบาลยกเลิกการผลิตเหล็กเส้นด้วยเตาเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Induction Furnace: IF) และบังคับให้ไทยใช้เพียงระบบ BOF/EAF เท่านั้น ทำให้เกิดเสียงคัดค้านจากผู้ประกอบการในภาคโลหะอย่างกว้างขวาง
ผู้ประกอบการชี้ “IF ไม่ได้ด้อยคุณภาพ” ย้ำยกเลิกเท่ากับปิดทางธุรกิจไทย
ดร.ศักดิ์ชัย ธนบดีจิรพงศ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการหล่อหลอมโลหะด้วยเตาเหนี่ยวนำไฟฟ้า ระบุว่า โรงงานเหล็กระบบ IF ของไทยมีอยู่ 11 แห่ง มูลค่าการลงทุนรวม 3,000–4,000 ล้านบาท สร้างมูลค่าตลาดราว 6–7 หมื่นล้านบาทต่อปี และถือครองสัดส่วนตลาดกว่า 70% ของเหล็กเส้นทั้งหมด
ดร.ศักดิ์ชัยย้ำว่า
- คุณภาพเหล็ก IF ในปัจจุบันแทบไม่ต่างจากระบบอื่น
- หากไม่มีการระบุสัญลักษณ์บนเหล็ก ไม่สามารถแยกได้ว่าใช้ระบบใด
- โรงงานไทยรุ่นแรกที่ใช้ IF มากว่า 20 ปี ไม่เคยมีปัญหาคุณภาพ
ส่วนกระแสว่า IF เป็นเหตุอาคาร สตง. ถล่มนั้น “ไม่เป็นความจริง” หลังผลตรวจยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวกับคุณภาพเหล็ก
ปัญหาล้นตลาดเพราะนโยบายส่งเสริมการลงทุน BOI
หลังปี 2016 โรงงานจีนจำนวนมากย้ายฐานการผลิตเข้ามาไทยหลังได้รับเงินชดเชยปิดโรงงานในประเทศต้นทาง และเข้ามาลงทุนกลุ่ม IF จำนวนมาก จนขยายกำลังผลิตและยึดตลาดกว่า 70%
ดร.ศักดิ์ชัยเสนอให้ BOI ยุติการส่งเสริมเพิ่มเติม เพราะไทยมีการผลิตเพียงพอแล้ว และควรหันมาสนับสนุนผู้ประกอบการไทยลดต้นทุนแทน
ชี้ยกเลิก IF ต้องชดเชยรัฐมหาศาล—ขู่อาจเกิดผูกขาดราคาเหล็ก
ดร.ศักดิ์ชัยยืนยันว่า รัฐยังไม่เคยมาหารือกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับแนวคิดเปลี่ยนระบบผลิตเหล็กเป็น BOF/EAF ทั้งหมด หากรัฐยกเลิกจริง จะต้องจ่ายค่าชดเชยด้านการลงทุนและค่าเสียโอกาส รวมสูงได้ถึง “หลักแสนล้านบาท” ซึ่งเป็นภาษีประชาชน
พร้อมเตือนผลกระทบห่วงโซ่อุตสาหกรรม
- ปิดเพียง 2 โรง ราคาขยับขึ้นทันที 3 บาท/กก.
- หากปิด 70% ของกำลังผลิต ราคาจะพุ่งหลายเท่าตัว
- ไทยจะเสียเปรียบหากเกิดวิกฤตโลกและต้องพึ่งนำเข้าเหล็กทั้งหมด
ดร.ศักดิ์ชัยระบุว่าในหลายประเทศยังใช้เตา IF เช่น จีน อินเดีย และชาติยุโรป โดยเฉพาะในงานสเตนเลสและงานผลิตที่ต้องการลดคาร์บอนตามแนวทาง Carbon Credit จึงไม่ควรมองว่า IF ล้าสมัย
เสนอทางออก ไม่จำกัดเทคโนโลยี แต่ “ต้องเข้ม มอก.” เท่าเทียมทุกระบบ
ผู้ประกอบการเสนอให้รัฐกำหนดมาตรฐานและการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นสำหรับทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น IF, EAF หรือ BOF เนื่องจากสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการที่สุดคือ “คุณภาพเหล็ก”
ดร.ศักดิ์ชัยขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรมที่ลงพื้นที่ตรวจโรงงาน IF ในปราจีนบุรีล่าสุดและไม่พบปัญหา พร้อมย้ำว่าสมาคมพร้อมรับการตรวจสอบและบทลงโทษเต็มรูปแบบหากพบสมาชิกผลิตสินค้ามาตรฐานไม่ได้
สุดท้ายเรียกร้องให้รัฐ “เปิดเวทีหารือทุกภาคส่วน” ก่อนตัดสินใจ เพราะการเปลี่ยนระบบผลิตเหล็กทั้งประเทศเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโดยตรง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
