รีเซต

'อนุทิน' เผยสมุทรปราการบับเบิ้ลแอนด์ซีล จัด'แฟคทอรีควอรันทีน'ทุกโรงงาน กักตัวกลุ่มผู้สัมผัส

'อนุทิน' เผยสมุทรปราการบับเบิ้ลแอนด์ซีล จัด'แฟคทอรีควอรันทีน'ทุกโรงงาน กักตัวกลุ่มผู้สัมผัส
มติชน
10 พฤษภาคม 2564 ( 18:24 )
51
'อนุทิน' เผยสมุทรปราการบับเบิ้ลแอนด์ซีล จัด'แฟคทอรีควอรันทีน'ทุกโรงงาน กักตัวกลุ่มผู้สัมผัส

วันนี้ (10 พฤษภาคม 2564) ที่ จ.สมุทรปราการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ติดตามสถานการณ์และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และให้กำลังใจบุคลากร เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย ที่โรงพยาบาล (รพ.) พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และ รพ.บางจาก พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ ถุงมือทางการแพทย์ หน้ากาก N95 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากเฟซชิลด์ ชุด Covrer All เครื่องฟอกอากาศ และยาฟ้าทะลายโจร

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามสถานการณ์โควิด 19 จ.สมุทรปราการ หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง จากการค้นหาเชิงรุกในโรงงานและในชุมชนใกล้เคียง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อจำนวน 3,240 ราย เฉพาะวันนี้ พบ 116 ราย โดย จ.สมุทรปราการ มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ มีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 6,000 แห่ง จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อควบคุมโรคโดยเร็ว

 

 

นายอนุทิน ระบุว่า ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) กระทรวงแรงงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เข้าไปดำเนินการควบคุมโรค และเข้มมาตรการองค์กรในโรงงานอุตสาหกรรม โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถานประกอบการ โดยในสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อ ได้ปิดทำความสะอาด ใช้กลยุทธ์ บับเบิ้ล แอนด์ ซีล (Bubble and Seal) ที่เคยใช้และประสบความสำเร็จใน จ. สมุทรสาคร จัดตั้งแฟคทอรี ควอรันทีน (Factory Quarantine) เพื่อกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสภายในโรงงาน เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดและป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวและชุมชน

“นอกจากนี้ หน่วยงานท้องถิ่นได้สำรวจคัดกรองในชุมชนเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ นำเข้าสู่ระบบการรักษาตามอาการโดยเร็ว ตามกลุ่มอาการที่เหมาะสม ส่วนผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อจากหน่วยบริการต่างๆ นอกจังหวัด เช่น สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร จะรับกลับเข้ารักษาใน จ.สมุทรปราการ โดยผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ (กลุ่มสีเขียว) จะเข้ารับการรักษาในฮอสปิเทล (Hospitel) ส่วนผู้ที่มีอาการ (กลุ่มสีเหลือง) และมีอาการหนัก (กลุ่มสีแดง) จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ภายในจังหวัด ทั้งนี้ได้ปรับการให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยที่มีอาการเร็วขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

 

รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าวว่า ส่วนภาพรวมสถานการณ์เตียงใน จ.สมุทรปราการ ทั้งภาครัฐ และเอกชน มีเพียงพอสำหรับผู้ติดเชื้อฮอสปิเทล ประมาณ 2,000 เตียง ขณะนี้ว่างอยู่ ประมาณ ร้อยละ 40 อย่างไรก็ตาม อีกมาตรการควบคุมโรคที่จะมีประสิทธิภาพสูงสุดประชาชนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดอัตราการป่วยที่รุนแรงและการเสียชีวิต โดย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่รวมถึงแรงงานต่างชาติ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน คาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 5,000 คนต่อวัน เดือนละ 1.5 แสนคน โดยเตรียมพร้อมรับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม และวอล์ก อิน (Walk in)

 

 

“สธ.ได้จัดหาและสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ไว้เพียงพอสำหรับรักษาผู้ป่วย รวมทั้งเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ดูแลผู้ติดเชื้อ ส่วนวัคซีนได้กระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนทุกคน ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด และทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดลดอัตราการเจ็บป่วยที่รุนแรงและการเสียชีวิต และขอให้มั่นใจว่า วัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้มีความปลอดภัย ไม่ด้อยกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ ขออย่าให้หลงเชื่อคำกล่าวอ้างที่ไม่มีข้อยืนยันเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน โดยอาการข้างเคียง อาจเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ สธ.ได้จัดระบบเฝ้าระวังติดตามอาการไว้แล้วเพื่อความปลอดภัย” นายอนุทิน กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง