รีเซต

“ไต้หวัน” จุดเดือดความขัดแย้ง “จีน” vs ญี่ปุ่น” เสี่ยงยกระดับรุนแรง

“ไต้หวัน” จุดเดือดความขัดแย้ง “จีน” vs ญี่ปุ่น” เสี่ยงยกระดับรุนแรง
TNN ช่อง16
17 พฤศจิกายน 2568 ( 18:56 )
8

ต้นเหตุความขัดแย้ง


ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ กล่าวในสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมว่า ญี่ปุ่นอาจเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน หากความขัดแย้งดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวันเพียง 110 กิโลเมตร


ทางการจีนมองว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็น ภัยคุกคามทางการทหารต่อจีน


ทั้งนี้รัฐธรรมนูญหลังสงครามของญี่ปุ่นห้ามมิให้ใช้กำลังเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างประเทศ แต่กฎหมายในปี 2015 ซึ่งผ่านเมื่อชินโซ อาเบะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อนุญาตให้ญี่ปุ่นใช้การป้องกันตนเองร่วมในสถานการณ์บางสถานการณ์ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงก็ตาม


พรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และประกาศจะผนวกไต้หวันให้กลับมาอยู่กับจีนโดยใช้กำลังทหาร หากไม่สามารถโน้มน้าวหรือบีบบังคับให้ไต้หวันยอมรับสิ่งที่เรียกว่า "การรวมชาติ" ได้ แต่ไต้หวันคัดค้านอย่างสุดตัว และความพยายามรุกรานของจีนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระดับภูมิภาคหรือระดับโลก

เหตุใดซานาเอะ ทาคาอิจิ จึงแสดงจุดยืนเช่นนี้ ?


ทาคาอิจิ มาจากฝ่ายขวาของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และมีมุมมองที่แข็งกร้าวต่อจีนอยู่แล้ว ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เพิ่งได้ดำรงตำแหน่ง ทาคาอิจิได้สนับสนุนการเสริมการป้องกันญี่ปุ่นเพื่อต่อต้านจีนที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเน้นที่หมู่เกาะรอบนอกของญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะเซ็นกากุ


เธอให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผลักดัน และต้องการให้ญี่ปุ่นพันธมิตรในเอเชียตะวันออกของสหรัฐฯ ใช้จ่ายด้านความมั่นคงมากขึ้น โดยจะเพิ่มเป็น 2% ของ GDP ภายในสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2026 ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้ 2 ปี


จีนตอบโต้อย่างไร ?


การตอบสนองของจีนเริ่มจากโพสต์บน X ที่เสวี่ย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีนประจำโอซากาลบไปแล้ว เขาขู่ว่าจะตัดคอโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งสิ่งที่เขาพูดค่อนข้างกำกวม แต่บางคนตีความว่า เป็นการคุกคามทาคาอิจิ


หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ออกมาปกป้องโพสต์ของเสวี่ย เจี้ยน และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นหยุดส่งสัญญาณที่ผิด ๆ ไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวัน


ต่อมา ทั้งสองประเทศได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของอีกฝ่ายเข้าพบเพื่อชี้แจง และจีนได้ออกคำเตือนนักเดินทางและนักศึกษาในการเยือนญี่ปุ่น โดยอ้างว่า ความปลอดภัยสาธารณะในญี่ปุ่นย่ำแย่ลง และชาวจีนอาจตกเป็นเป้าหมายการกระทำผิดทางอาญา


กองทัพจีนเตือนว่าญี่ปุ่นจะ “พ่ายแพ้อย่างย่อยยับหากกล้าแทรกแซงทางทหาร” ในความขัดแย้งข้ามช่องแคบ และในวันอาทิตย์ จีนได้ส่งเรือยามชายฝั่งผ่านหมู่เกาะเซนกากุ ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น แต่จีนก็อ้างสิทธิ์ในหมู่เกาะดังกล่าว ซึ่งจีนเรียกว่า เกาะเตียวหยู นอกจากนี้ยังได้ส่งโดรนทางทหารบินผ่านเกาะโยนากุนิ ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ทางตะวันตกสุดของหมู่เกาะญี่ปุ่นอีกด้วย


เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สถานทูตจีนประจำญี่ปุ่นได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า จีนไม่ได้ยุติการใช้กำลังเพื่อยึดไต้หวัน และเตือนว่าการแทรกแซงใด ๆ จากญี่ปุ่นจะถูกมองว่าเป็นการกระทำรุกราน ซึ่งจีนจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด

ประวัติศาสตร์จีน-ญี่ปุ่น ต่อดินแดนไต้หวัน


ไต้หวันอยู่ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่นนาน 50 ปี จนกระทั่งรัฐบาลญี่ปุ่นถูกบังคับให้สละอำนาจให้แก่สาธารณรัฐจีน (ROC) ในขณะนั้น หลังจากที่ยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะนั้น รัฐบาล ROC กำลังทำสงครามกลางเมืองกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ ไต้หวันพ่ายแพ้ในแผ่นดินใหญ่ และถอยทัพไปยังไต้หวันในชื่อ ROC (ไต้หวัน) ขณะที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ขึ้นบนแผ่นดินใหญ่


ปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างว่า ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่ง แม้ว่าจะไม่เคยปกครองก็ตาม


หากจีนพยายามผนวกไต้หวัน และสหรัฐฯ เข้ามาปกป้องไต้หวัน ความขัดแย้งดังกล่าวอาจทำให้ญี่ปุ่น ซึ่งมีกำลังทหารสหรัฐฯ จำนวนมากเข้าร่วมด้วย ญี่ปุ่นเองก็ไม่ต้องการเห็นประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตรเข้ามาควบคุมไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะที่เรียกว่า First Island Chain ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างจีนและมหาสมุทรแปซิฟิก


เป็นไปได้ไหมที่ความตึงเครียดจะยกระดับขึ้น ?


นักวิชาการระบุว่า แม้มีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดการเผชิญหน้าทางการทหาร แต่ก็มีความเสี่ยงที่การเคลื่อนไหวบริเวณหมู่เกาะเซ็นกากุ และเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน (Adiz) อาจลุกลามเป็นการสู้รบ


แต่ในระยะสั้นก็อาจกระทบเรื่องการค้า การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในสองประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง