รีเซต

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เอาชนะตัวเก็งหลัก อย่างทาโร โคโนะ

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เอาชนะตัวเก็งหลัก อย่างทาโร โคโนะ
TNN World
29 กันยายน 2564 ( 15:35 )
70
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เอาชนะตัวเก็งหลัก อย่างทาโร โคโนะ
Editor’s Pick: การเลือกตั้งหัวหน้าพรรครัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น เกิดการหักปากกาเซียนขึ้นแล้ว เมื่ออดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เอาชนะตัวเก็งหลัก อย่างทาโร โคโนะ ไปได้
 
 
เนื่องจาก นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ LDP เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ต้องการทุ่มเทเวลาให้กับการรับมือคุมโควิด-19 เพียงอย่างเดียว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลของเขารับมือกับโควิด-19 ได้ไม่ดีนัก
 
 
ทำให้ พรรค LDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ต้องเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ในวันนี้ (29 กันยายน) และผู้ที่ได้รับเลือกจะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากพรรค LDP ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
 
 
ผลปรากฎว่า ฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เอาชนะนายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีที่ดูแลรับผิดชอบการแก้ปัญหาโควิด ไปได้ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรีตคนใหม่ของญี่ปุ่น
 
 
ก่อนหน้านี้ Japan Times รายงานว่า นายทาโร โคโนะ ยังคงเป็นผู้สมัครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จากบรรดาผู้สมัครทั้งหมด 4 คน ที่เป็น ชาย 2 หญิง 2 ทำให้ชัยชนะของคิชิดะ เรียกว่าเกินความคาดหมาย
 
 
 
ผลคะแนนนิยมเป็นอย่างไร
 
 
ผลสำรวจคะแนนความนิยมของ Kyodo News เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 กันยายน) ชี้ว่า โคโนะ ได้คะแนน 47.4% ลดลง 1.2% จากการสำรวจเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
 
 
ตามมาด้วย ฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้คะแนน 22.4% เพิ่มขึ้น 3.9 คะแนน
ซานาเอะ ทาคาอิชิ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 16.2% และ เซอิโกะ โนดะ รักษาการเลขาธิการพรค LDP ได้คะแนน 3.4%
 
 
ขณะที่ 10.7% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนเสียงให้ใคร
 
 
 
จุดยืนของคิชิดะ
 
 
นายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ประกาศตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ก่อนใคร นับเป็นความพยายามครั้งที่ 2 ของเขา ในการลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
คิชิดะ สนับสนุนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และมีส่วนช่วยให้อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ เดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมาเมื่อปี 2016 กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่เดินทางไปยังเมืองดังกล่าว ที่ถูกทิ้งระเบิดปรมาณู ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
 
 
 
กระบวนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค
 
ในรอบแรกของการเลือกตั้ง สมาชิกสภาของพรรค LDP จำนวน 382 คน จะเป็นผู้ลงคะแนนเสียง และอีก 382 คะแนน มาจากคะแนนความนิยมของสมาชิกพรรคทั่วไป 1.1 ล้านคน
 
 
ถ้าไม่มีใครได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ จะต้องมีการเลือกตั้งอีกครั้ง จากสมาชิกสภาพรรค LDP 382 คน และจากสาขาของพรรคใน 47 จังหวัดแต่เนื่องจากคิชิดะได้คะแนนนำชัดเจน ทำให้ค่อนข้างแน่ชัดว่าเขาจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากรัฐสภาญี่ปุ่นเปิดการประชุมพิเศษตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนี้
 
 
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า การเลือกตั้งหัวหน้าพรรครัฐบาลญี่ปุ่นครั้งนี้ เป็นการแข่งขันที่มีความไม่แน่นอน อย่างที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อน
 
 
สตีเวน รีด ศาสตราจารย์กิตติคุณแห่งมหาวิทยาลัยชูโอ ระบุว่า การเสียงแตกภายในพรรค LDP ในการเลือกผู้นำคนใหม่ เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นนัก นับตั้งแต่อดีตนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ดำรงตำแหน่งนานเกือบ 8 ปี ซึ่งยาวนานที่สุดในประเทศ
 
 
หลังจากนายอาเบะลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ พรรค LDP ก็สนับสนุนให้นายซูงะ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทน แต่คะแนนสนับสนุนของนายซูงะตกลง เนื่องจากการรับมือกับโควิด-19 จนนำไปสู่การประกาศจะลาออกก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้น
 
 
 
ชาวญี่ปุ่นคาดหวังอะไรจากผู้นำคนใหม่?
 
 
ผลสำรวจชี้ว่า ชาวญี่ปุ่น 30.2% คาดหวังให้ผู้นำคนใหม่มุ่งเน้นไปที่นโยบายเศรษฐกิจ รองลงมา 22.3% เน้นที่การรับมือกับโควิด-19 ขณะที่ 15.4% ต้องการให้มุ่งเน้นสวัสดิการและประกันสังคม และอีก 14.7% เน้นความสัมพันธ์ทางการทูตและความมั่นคง
 
 
Japan Times ระบุว่า ไม่ว่า โคโนะ หรือ คิชิดะ จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายของญี่ปุ่นมากนัก ที่พยายามรับมือกับจีน และฟื้นฟูผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
 
 
ทั้งโคโนะ และ คิชิดะ มีความเห็นตรงกันถึงความที่จะเสริมการป้องกันประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น และกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอื่น ๆ
 
 
รวมถึงเห็นด้วยกับกลุ่ม “Quad” หรือ จตุภาคีด้านความมั่นคง ที่ญี่ปุ่น เป็นสมาชิกร่วมกับ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และอินเดีย เพื่อความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่ถูกมองว่าเป็นการผนึกต้านการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็ต้องการรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญกับจีนและร่วมประชุมสุดยอดร่วมกันตามปกติ
 
 
สึเนโอะ วาตานาเบะ สมาชิกอาวุโส มูลนิธิสันติภาพ ซาสะกาวะ ระบุว่า “ฉันทามติในญี่ปุ่นและ LDP คือการสร้างสมดุลระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ญี่ปุ่นต้องแข็งแกร่งในการป้องกันประเทศ แต่ยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนไว้

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง