ถอดบทเรียน "เด็กติดในรถ" เร่งติดระบบ "Smart school bus" ให้รร.ทั่วประเทศ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ผมขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของ ด.ญ.เขมนิจ ทองอยู่ หรือน้องจีฮุน ที่ถูกลืมไว้ในรถโรงเรียนและเสียชีวิต ในฐานะพ่อ ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้ปกครอง การสูญเสียลูกเป็นสิ่งที่สะเทือนใจที่สุด และเราก็เห็นข่าวนี้มาตลอด ทั้งนี้ ผมเเละกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมก็จะได้พยายามพัฒนาระบบ Smart School Bus
โดยเราจะนำเทคโนโลยี IoT Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหว และคลื่นความร้อนของเด็กนักเรียนที่อยู่ในรถ คือถ้ามีการลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถ Sensor นี้ก็จะมีการทำงานก็จะตรวจให้เห็นว่ามีคนลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถจะแจ้งเตือนมือถือมาที่ผู้ปกครอง มือถือของครู และแจ้งเตือนไปที่ศูนย์บัญชาการของระบบ ทำให้เรารู้ว่ามีการลืมเด็กไว้ในรถนักเรียน เค้าจะรีบเอาเด็กออกได้ ก็จะไม่เกิดปัญหานี้ต่อไป นี่จะเป็นสิ่งที่ระบบตั้งไว้ Face Recognition system จดจำใบหน้าของเด็กนักเรียนที่ขึ้นรถลงรถ เราก็จะรู้ว่าเด็กขึ้นรถรึยัง ลงรถรึยัง และระบุชื่อระบุตัวตันได้ด้วย นี่คือระบบที่เราจะทำขึ้นมาเรียกว่า Smart School Bus เราจะพัฒนาให้เกิดขึ้นมาให้ได้เร็ว ๆ นี้ เพื่อแก้ปัญหา เราจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว
ซึ่งผมได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa ทำโครงการนำร่อง 300 โรงเรียนภาครัฐ และ 50 โรงเรียนภาคเอกชน รวมเป็น 350 โรงเรียนที่จะนำ Smart School Bus ไปติดตั้งในรถโรงเรียน โรงเรียนละ 10 คัน รวมเป็นทั้งหมด 3500 คัน ทั่วประเทศ และจะผลักดันให้สำเร็จภายในปีนี้ เชื่อว่าถ้าโครงการนี้สำเร็จ ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดี ให้ทุกโรงเรียนนำไปใช้ต่อ ในการที่เอาระบบเซ็นเซอร์ IoT ไปติดที่รถโรงเรียน เราจะรู้ว่ามีใครลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียนหรือไม่ มันจะมีการแจ้งเตือน ซึ่งถ้าระบบนี้สมบูรณ์ก็จะไม่มีเด็กติดในรถอีก
โดยหลังจากระบบนี้ได้นำไปใช้แล้ว ผมจะประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้นำระบบ Smart School Bus ป้องกันเด็กถูกลืมในรถ ไปติดในรถโรงเรียนทุกคันทั่วประเทศ ซึ่งถ้าทำสำเร็จ เราสามารถรักษาชีวิตลูกหลานของเราให้ปลอดภัย จะไม่มีใครถูกลืม จะไม่มีลูกหลานของเราเสียชีวิตเพราะถูกทิ้งไว้ในรถโรงเรียนอีกต่อไป
สำหรับจุดเด่นของ Smart School Bus คือ
1. มีระบบ Track พิกัดว่ารถโรงเรียนอยู่ที่ไหน ขับด้วยความเร็วเท่าไร โดยจะส่งมาที่ Command Center
2. มีระบบ Motion Sensor ด้วยเทคโนโลยี Microwave ทำให้มีความแม่นยำสูง
3. มีปุ่มฉุกเฉิน SOS ในรถ พร้อม Battery ในตัว ถ้าเด็กอยู่ในรถ สามารถกดขอความช่วยเหลือได้ทันที
4. มี Mobile Application ให้ผู้ปกครอง ครู คนขับรถ และเจ้าหน้าที่ Command Center ใช้ในการตลอดสอบตลอดเวลา
ภาพรัฐบาลไทย