เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ชี้ชะตา "ไบเดน-สงครามยูเครน"
จับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ วันนี้ หลายฝ่ายวิเคราะห์กันว่า พรรคเดโมแครต ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน อาจสูญเสียคะแนนที่นั่งในสภาให้กับพรรครีพับลิกัน และการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังอาจชี้ชะตาถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นใน 2 ปีข้างหน้า
การเลือกตั้งกลางเทอมรอบนี้ เป็นการเลือกตั้ง ส.ส. เต็มสภาทั้งหมด 435 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิก 35 ที่นั่ง หรือ 1 ใน 3 จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง จากการประเมินของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า พรรคเดโมแครตจะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ขณะที่วุฒิสภานั้นขับเคี่ยวกันอย่างสูสีมากจนคาดการณ์ได้ยากมาก
โดยการเลือกตั้งวุฒิสภา ที่ทั้งสองพรรคครองท่ี่นั่งเท่ากัน 50-50 ต้องจับตามองไปที่การแข่งขันในรัฐจอร์เจีย แอริโซนา และเพนน์ซิลเวเนีย ที่ถือเป็นรัฐสมรภูมิและคะแนนเสียงสูสีอย่างมากจนประธานาธิบดีไบเดน และบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต รวมถึงโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของฝั่งรีพับลิกัน ต้องลงพื้นท่ี่หาเสียงช่วยโค้งสุดท้ายเพื่อช่วยผู้สมัครของตน แสดงให้เห็นถึงเดิมพันที่สูงมาก
ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ปัจจุบัน พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาแบบปริ่มน้ำ 220 ต่อ 211 ที่นั่ง พรรครีพับลิกันกำลังเล็งไปที่การช่วงชิงเก้าอี้ในรัฐสำคัญอย่างเวอร์จิเนีย เท็กซัส และมิชิแกน ที่ผู้สมัครของพรรคกำลังเร่งหาเสียงและโจมตีข้อผิดพลาดของคู่แข่งจากเดโมแครต
โดยเฉพาะในประเด็นเศรษฐกิจ เพื่อหวังคว้าชัยชนะและครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากทำได้ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และยังสามารถคว้าชัยชนะและครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาด้วย
ก็จะทำให้การทำหน้าที่ผู้ประเทศอีก 2 ปีที่เหลือของไบเดนเป็นไปด้วยความลำบากมากขึ้น เพราะจะไม่สามารถผลักดันกฏหมายต่างๆ ในสภาได้อย่างราบรื่น
ขณะที่ประเด็นที่ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนให้ความสนใจในการเลือกตั้ง หนีไม่พ้นเรื่องของการทำแท้งเสรี กฎหมายกัญชา หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดและการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ที่ในแต่ละรัฐมีกฎหมายของตนเอง
ในส่วนของประชาคมโลกก็ต้องจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ เช่นกัน เพราะผลการเลือกตั้งมีส่วนต่อการดำเนินนโยบายบนเวทีระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หลังจากนี้อย่างมาก โดยเฉพาะในประเด็น "ความขัดแย้งในยูเครน"
เนื่องจากหากพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีไบเดนก็ยืนยันว่า จะสนับสนุนด้านงบประมาณและอาวุธให้กับยูเครนเพื่อรับมือกับรัสเซียต่อไป
ขณะที่ฝ่ายรีพับลิกันออกมาส่งสัญญาณว่า หากได้ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา จะไม่สนับสนุนร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือยูเครนอีกต่อไป
ทำให้ไบเดนจะต้องทำหน้าที่ผู้นำสหรัฐฯ ในอีก 2 ปีที่เหลืออย่างยากลำบาก โดยเฉพาะการให้คำมั่นสัญญาในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งยูเครน เอเชียแปซิฟิก ที่อาจไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ผลการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ ยังอาจ "ชี้ชะตาถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ" ที่จะมีขึ้นใน 2 ปีข้างหน้า เพราะหากเดโมแครตพ่ายแพ้ หลายฝ่ายในพรรคคงต้องตั้งคำถามมากขึ้นเรื่องความเหมาะสมที่จะสนับสนุนไบเดน ให้เป็นตัวแทนพรรคลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 2 ปีข้างหน้า ในตอนนั้นเขาจะมีอายุ 80 ปี
ขณะที่ทรัมป์ซึ่งยังคงได้รับความนิยมจากผู้สนับสนุนอย่างมาก บอกแล้วว่าจะประกาศเรื่องใหญ่มากในสัปดาห์หน้า ซึ่งก็คาดกันว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เขาเตรียมลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2024.
ภาพจาก Reuters
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt
ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok