เกษตรกรกว่า 21 จว.เฮ พาณิชน์เคาะส่วนต่างข้าวโพด กก.ละ8 สต. ส่งธกส.จ่ายตรงเข้าบัญชี
ข้าวโพดงวด4ปี2 มาแล้ว! เกษตรกรกว่า 21 จังหวัดได้ เฮ “พาณิชย์”เคาะจ่าย”ส่วนต่าง” กิโลกรัมละ 8 สตางค์ ส่ง ธ.ก.ส.กดปุ่มจ่ายเกษตรกรตรงเข้าบัญชี
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้านโยบายปี2โครงการประกันรายได้เกษตรกรนั้น ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้เคาะจ่ายส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด งวดที่ 4 ของโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 ในอัตรากิโลกรัมละ 0.08 บาท โดยจ่ายให้กับเกษตรกรที่ระบุวันเก็บเกี่ยว 20 ม.ค.-19 ก.พ.64 ทำให้มีเกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยสูงสุด 1,711 บาท
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าเมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ลงนามในประกาศเรื่อง การกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 โดยมีมติให้จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 4 ของโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2564 ถึงวันที่ 19 ก.พ.2564 ในอัตรากิโลกรัม ละ 0.08 บาท
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง ระบุการคำนวณปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ได้ใช้วิธีการเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีเทียบเคียง คือ ปี 2561-2562-2563-2564 ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 713 กิโลกรัม/ต่อไร่ คูณด้วยจำนวนไร่ตามที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ สำหรับการกำหนดราคาอ้างอิง คณะอนุกรรมการฯ ได้ใช้ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5% ของกรมการค้าภายใน เฉลี่ยจากจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตข้าวโพดสำคัญ 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา น่าน ตาก เลย เชียงราย ลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก และแพร่ เฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน เพื่อคำนวณการจ่ายส่วนต่าง โดยงวดที่ 4 ที่กำลังจะจ่ายนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8.42 บาทต่อกิโลกรัมมีจึงส่วนต่างอยู่ที่กิโลกรัมละ 0.08 บาท จากราคาเป้าหมาย 8.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะจ่ายเดือนละครั้งทุกวันที่ 20 จนสิ้นสุดโครงการ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดทั้งประเทศ 4.5 แสนครัวเรือน ปลูกมากที่สุด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตาก เชียงราย และกระจายอยู่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กับหลายจังหวัดในภาคอีสานและมีภูมิภาคอื่นด้วยเล็กน้อย โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี2 คือ ปี 2563/64 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2563 ในกรอบวงเงิน 1,912 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้กับเกษตรกร
“โดยโครงการการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็น 1ในพืชหลัก 5 ชนิดที่นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือน 25 กรกฎาคม 2562 เป็นเงื่อนไข1ใน3ในการเข้าร่วมรัฐบาลนี้ สำหรับโครงการนี้เป็นที่ถูกใจเกษตรกรอย่างมากเพราะเป็นการให้หลักประกันและยกระดับราคาให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นในโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี1 ที่ดำเนินการผ่านไปนั้นสรุปผลการดำเนินโครงการช่วยเกษตรกรได้ 3.6 แสนรายในวงเงิน 1,053 ล้านบาทและในบางงวดไม่ต้องจ่ายส่วนต่างเนื่องจากราคาทะลุรายได้ที่ประกันและยังมีมาตรการคู่ขนานช่วยเกษตรกร ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามีเกษตรกรได้เงินส่วนต่างสูงสุด 12,814 บาท “นางมัลลิกากล่าว