รีเซต

รวยเละ! แจ็กพอตพาวเวอร์บอลของสหรัฐแตกอีกแล้ว ผู้ชนะรับทรัพย์อื้อ 21,885 ล้านบาท!

รวยเละ! แจ็กพอตพาวเวอร์บอลของสหรัฐแตกอีกแล้ว ผู้ชนะรับทรัพย์อื้อ 21,885 ล้านบาท!
มติชน
22 มกราคม 2564 ( 00:03 )
238

เมื่อวันที่ 21 มกราคม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า รางวัลแจ็กพอตของ “พาวเวอร์บอล” ลอตเตอรี่ของสหรัฐอเมริกานั้นได้แตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากไม่มีผู้ถูกรางวัลแจ็กพอตติดต่อมานานกว่า 4 เดือน ทำให้ยอดเงินรางวัลสะสมจนสูงถึง 731.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 21,885 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นรางวัลที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ของลอตเตอรี่ของสหรัฐ

 

รายงานระบุว่า ลอตเตอรี่ “พาวเวอร์บอล” งวดล่าสุดเมื่อคืนวันพุธตามเวลาในท้องถิ่นสหรัฐ คือหมายเลข 40–53–60–68–69 และเลขพาวเวอร์บอล 22 และจากการตรวจสอบนั้น พบว่าผู้ถูกรางวัลดังกล่าวนั้นซื้อสลากในแมรีแลนด์ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยตัว ซึ่งรัฐแมรีแลนด์เป็นหนึ่งในรัฐที่อนุญาตให้ผู้ชนะรางวัลนั้นไม่ต้องเปิดเผยชื่อ โดยเบื้องต้นรายงานระบุว่า สลากหมายเลขที่ถูกรางวัลแจ๊กพอต ถูกซื้อไปจากร้านตัวแทนจำหน่าย ในเขตแอลลีแกนี เคาน์ตี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแมรีแลนด์

 

 

โดยหลังจากแจ็กพอตแตก ลอตเตอรี่พาวเวอร์บอลงวดต่อไปจะมีรางวัลเริ่มต้นที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 598.8 ล้านบาท) โดยเงินรางวัลก็จะทบต่อไปเรื่อยๆ หากไม่มีผู้ถูกรางวัลในแต่ละงวด

ขณะเดียวกัน ลอตเตอรี่ใหญ่อีกเจ้าคือ “เมกะ มิลเลียนส์” ซึ่งไม่มีผู้ถูกรางวัลติดต่อกันมานาจนเงินรางวัลสะสมมาถึง 970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 29,041 ล้านบาท) ซึ่งจะมีการออกสลากในคืนวันศุกร์ที่ 22 นี้ตามเวลาท้องถิ่น

 

เอพี รายงานว่า นับเป็นครั้งแรกที่รางวัลแจ็กพอตของพาวเวอร์บอลและเมกะมิลเลียนส์ต่างทะลุเกิน 700 ดอลลาร์สหรัฐในเวลาเดียวกัน ขณะที่รางวัลแจ็กพอตที่สูงที่สุดของพาวเวอร์บอลนั้นอยู่ที่ 1,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 47,303 ล้านบาท) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2016 ซึ่งมีผู้ถูกรางวัลและต้องแบ่งเงินกัน 3 คน

ทั้งนี้ ผู้คว้ารางวัลแจ็กพอตนั้น มีสิทธิเลือกรับเงิน 2 แบบ นั่นคือ รับเป็นเงินก้อนทีเดียวจบ ซึ่งจะได้เงินรางวัลสุทธิน้อยลงหลังหักภาษีเข้ารัฐและรัฐบาลกลาง หรือจะรับงวดรายปี รวม 30 ปี ซึ่งจะได้เงินเต็มจำนวน โดยที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ถูกรางวัลนั้นมักเลือกรับเงินแบบก้อนทีเดียวจบ

 

ทั้งนี้ หากผู้ถูกรางวัลแจ็กพอตจากแมรีแลนด์ในครั้งนี้ เลือกรับแบบก้อนเดียวจบ จะเหลือเงินที่ได้รับสุทธิประมาณ 546.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 16,376 ล้านบาท)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง