"อนาคามี" คือ? ผู้ไม่มาเกิดอีก ก้าวสำคัญสู่หนทางหลุดพ้น
"อนาคามี" ซึ่งเป็นพระอริยบุคคลขั้นที่ 3 ในพุทธศาสนา
ความหมายและลักษณะของพระอนาคามี
อนาคามี เป็นคำในภาษาบาลีที่แปลว่า "ผู้ไม่มาเกิดอีก" หมายความว่าจะไม่กลับมาเกิดในกามภพหรือกามาวจรภพอีก แต่จะเกิดในพรหมโลกอีกเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นจะบรรลุเป็นพระอรหันต์และนิพพานในพรหมโลกนั้น พระอนาคามีจึงถือเป็นผู้ที่มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมาเป็นอย่างมาก
พระอนาคามีเป็นผู้ละกิเลสเบื้องต่ำ หรือโอรัมภาคิยสังโยชน์ ได้แล้วทั้ง 5 ประการ ได้แก่ 1) สักกายทิฏฐิ 2) วิจิกิจฉา 3) สีลัพพตปรามาส 4) กามราคะ และ 5) ปฏิฆะ อย่างไรก็ตาม พระอนาคามียังมีกิเลสเบื้องสูงหรืออุทธัมภาคิยสังโยชน์ เหลืออยู่อีก 5 ประการ คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ และอวิชชา
สังโยชน์เบื้องสูงที่ยังคงเหลืออยู่ในจิตใจของพระอนาคามีนั้น ถึงแม้จะมีชื่อเดียวกับกิเลสของปุถุชนหรือคนธรรมดา แต่มีความละเอียดและประณีตมากกว่าอย่างมาก เช่น มานะของพระอนาคามีคือความสำคัญตนว่าเป็นพระอนาคามี ไม่ใช่ความสำคัญตนอย่างหยาบของปุถุชน
คัมภีร์แบ่งพระอนาคามีออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
อันตราปรินิพพายี: ผู้ปรินิพพานระหว่างภพ
อุปหัจจปรินิพพายี: ผู้ปรินิพพานเมื่ออายุใกล้หมด
อสังขารปรินิพพายี: ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้ความเพียรมาก
สสังขารปรินิพพายี: ผู้ต้องใช้ความเพียรมากในการปรินิพพาน
อุทธังโสโต อกนิฏฐคามี: ผู้มีกระแสแห่งการปฏิบัติธรรมไปสู่อกนิฏฐภพ
การบรรลุเป็นพระอนาคามีเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธเจ้า เพราะพระอนาคามีได้ละกิเลสเบื้องต่ำได้หมดสิ้นแล้ว และเหลือเพียงกิเลสเบื้องสูงเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะบรรลุนิพพานโดยสมบูรณ์ในที่สุด การได้บรรลุเป็นพระอนาคามีจึงนับเป็นจุดสำคัญในการเจริญก้าวหน้าสู่ความหลุดพ้นอย่างสูงสุด
ภาพ : Getty Images