WHAชี้กองทุนต่างชาติ สบจังหวะหุ้นร่วงเข้าซื้อ

#WHA #ทันหุ้น - WHA ชี้สถาบันต่างชาติ เข้าซื้อหุ้นผ่าน NVDR 183 ล้านหุ้น ช่วงราคาร่วงหนัก 2 วันทำการปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังนักลงทุนตกใจข่าวผู้ถือหน่วยWHART ไม่อนุมัติเพิ่มทุน4.28 พันล้านบาท พร้อมยืนยันไม่ส่งผลกระทบกระแสเงินสด-งบลงทุนปีนี้ เหตุรายได้จากขายสินทรัพย์มีเพียง 1.7 พันล้านบาทเท่านั้น ขณะที่แคชโฟลว์สูงถึง 1 หมื่นล้านบาท จ่อสปินออฟบริษัทลูกขายไอพีโอ ปีหน้า
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า จากกรณีทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART ไม่อนุมัติเพิ่มทุน มูลค่า 4,289 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนตกใจ ส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัทในช่วงวัน 2 วันทำการที่ผ่านมา คือวันที่ 20 และวันที่ 21 มิถุนายน ปรับตัวลดลงประมาณ 8% และมีปริมาณหุ้นซื้อขายที่ประมาณ 380 ล้านหุ้น
@กองทุนต่างชาติซื้อ 183 ล้านหุ้น
ทั้งนี้จากการเช็กข้อมูลพบว่า ในช่วง 2 วันดังกล่าว มีการชอร์ตหุ้นของบริษัทเพียง 9% ขณะที่มีนักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้น WHA ผ่าน NVDR รวม 183 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่านักลงทุนสถาบันต่างประเทศสนใจซื้อหุ้นของ WHA เพียงแค่รอจังหวะในการซื้อ ทำให้เมื่อราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลงมานักลงทุนต่างชาติจึงได้เข้าซื้อในราคาที่ถูก
ทั้งนี้ WHA ขอยืนยันว่าการที่บริษัทไม่สามารถขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART ได้ในปีนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสด เพราะ ณ สิ้นไตรมาส1ปี 2567 บริษัทมีกระแสเงินสด 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงไม่กระทบต่อแผนการลงทุนปีนี้ที่บริษัทตั้งไว้ 2.5 หมื่นล้านบาท จากบริษัทมีหนี้สินต่อทุนที่ต่ำสามารถกู้เงินได้ และ รายได้ที่บริษัทจะได้รับจากการขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART มีเพียง 1,701.5 ล้านบาท ในส่วนสินทรัพย์ที่ WHA เป็นเจ้าของ 100% หรือคิดเป็น 7.366 หมื่นตารางเมตร ส่วนสินทรัพย์อีก 60% หรือ 9.939 หมื่นตารางเมตร เป็นของบริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 50% ซึ่งจะรับรู้กลับมาเป็นส่วนแบ่งกำไร
นางสาวจรีพร กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทใช้เงินลงทุนซื้อที่ดินไปแล้ว 5 พันล้านบาท และเหลือเงินอีก 3 พันล้านบาท ที่จะใช้ในการซื้อที่ดินเพิ่ม แต่ด้วยปัจจุบันเรามีที่ดินในมือที่รอการพัฒนาถึง 8.8 พันไร่ เพียงพอในการพัฒนาและขายในอีก3 ปีข้างหน้า จึงยังไม่ต้องรีบในการซื้อที่ดินมากนัก
@ยันยอดขายที่ดินดีต่อเนื่อง
สำหรับในเรื่องของเป้าหมายรายได้ปีนี้ เดิมบริษัทตั้งเป้าไว้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ออลไทม์ไฮ) ต่อเนื่องจากปี 2566 นั้นก็จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะทำออลไทม์ไฮ ได้หรือไม่ แต่ในเบื้องต้นธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยอดขายที่ดินยังดีต่อเนื่องจากกระแสการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนยังมีต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 2.275 พันไร่ เป็นเป้าที่บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ ซึ่งยังไม่รวมกับบิ๊กล็อตที่จะขายให้ให้กับลูกค้ารายใหญ่ เพราะในส่วนของบิ๊กล็อตนั้นมีความไม่แน่นอน จึงไม่นำมารวมในเป้ายอดขายที่ดินปีนี้
ส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ได้ขายเข้ากอง WHART นั้นบริษัทยังรับรู้เป็นรายได้ค่าเช่าขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ปีนี้มีทิศทางที่ดีมาก ทั้งธุรกิจโลจิสติกส์ ที่มีลูกค้ามาต่อเนื่อง ธุรกิจสาธารณูปโภค ทั้งน้ำและไฟฟ้า ธุรกิจเทคโนโลยี รวมถึงธุรกิจใหม่คือ กรีนโลจิสติกส์
“ผู้ถือหน่วย WHART ส่วนใหญ่เป็นสถาบัน 65% รายย่อย 20% WHA ถือ 15% ซึ่งไม่มีสิทธิออกเสียง โดยผู้อนุมัติเพิ่มทุน 66.98% แต่ต้องใช้เสียง 75% ซึ่งมีกองทุนที่ไม่อนุมัติ 3 ราย 1 ในนั้นปกติก็จะไม่ได้มาประชุม ส่วนอีก 2 รายนั้นไม่อนุมัติ เบื้องต้นทราบว่ามีความกังวลเรื่องภาวะตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันที่ไม่ดี จึงไม่อยากเพิ่มทุน”
@จ่อสปินออฟบริษัทลูกขายไอพีโอ
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปพบกับนักลงทุนสถาบันที่ไม่อนุมัติการเพิ่มทุนว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร และเข้าไปชี้แจงข้อมูล และสอบถามว่าอนาคตยังอยากให้ WHART เพิ่มทุนต่อไปหรือไม่ หลังจากนั้น WHA ก็จะนำข้อมูลที่ได้มาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะมีการตั้งกองรีทในต่างประเทศหรือไม่ หรือเลื่อนการเพิ่มทุนไปปีหน้า บริษัทก็จะเพิ่มทุนเท่าเดิมคือ 4.28 พันล้านบาท
ส่วนสินทรัพย์ที่จะขายปี 2568 ก็จะเลื่อนไปเพิ่มทุนในปี2569 แทน เนื่องจากบริษัทไม่อยากที่จะเพิ่มทุนมาก เพราะในปีหน้าบริษัทจะมีกระแสเงินสดเข้ามาจำนวนมาก จาก WHA มีแผนที่จะนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (สปินออฟ) โดยบริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า หาก WHA ขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART ไม่ได้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัท เพราะบริษัทยังคงรับรู้รายได้จากค่าเช่าแทน และธุรกิจอื่นมีแนวโน้มเติบโตที่ดี
นางสาวจรีพร กล่าวว่า หากผลการหารือกับทางนักลงทุนสถาบันแล้วออกมาทิศทางที่ดี และมีการจัดประชุมผู้ถือหน่วย WHART อีกครั้ง โอกาสที่จะขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART ในปีนี้ก็มีน้อย เพราะกระบวนการขายสินทรัพย์นั้นต้องใช้เวลานาน