เครือข่ายปชช.ปกป้องประเทศร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสอบค่าไฟฟ้า ชี้ควรลดมากกว่า50%
เครือข่ายปชช.ปกป้องประเทศ ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสอบค่าไฟฟ้า ชี้ควรลดมากกว่า50% วอนสอบการคำนวณค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนม.ค.-เม.ย. ซื้อไฟฟ้าจากเอกชนใช้หลักเกณฑ์ใด- มีสัดส่วนการซื้อจากเอกชนรายใดบ้าง จำนวนเท่าใด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 พฤษภาคม ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เลขาธิการฯ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการคิดค่าไฟฟ้าและมีข้อเสนอต่อคณะกรรมการการกำกับกิจการพลังงาน คณะกรรมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อให้ปรับลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน
พท.พญ.กมลพรรณ กล่าวว่า หลักการคิดค่าไฟฟ้าจะคำนวณมาจากราคาแก๊สของตลาดโลกและค่าเงิน ซึ่งในปี 2563 ราคาแก๊สและค่าเงินบาทของไทยอ่อนตัวกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2560 ราคาแก๊สโลกอยู่ที่ 2-3 เหรียญต่อล้านบีทียู หรือ ประมาณ 100 บาท ราคาแก๊สไทยที่ใช้คิดค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 224 บาทต่อล้านบีทียู และค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 31 – 30 บาท ขณะที่ปี 2562 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 31-32 บาท แต่ในปี 2563 ราคาแก๊สในตลาดโลกลดลงเหลือ 1-2 เหรียญต่อล้านบีทียู หรือประมาณ 50-60 บาท ดังนั้นการที่การไฟฟ้าประกาศลดค่าไฟฟ้า 3 เปอร์เซ็นต์ หรือที่ระบุว่าหากใช้มากจะลด 50 เปอร์เซ็นต์ ทางเครือข่ายก็ยังเห็นว่าเป็นการลดค่าไฟแบบไม่เป็นธรรม ควรที่จะลดมากกว่านั้น
พท.พญ.กมลพรรณ กล่าวว่า เมื่อไปดูรายได้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า พบว่ามีกำไรสะสมอยู่จำนวนมาก ขณะที่รายได้ของ ปตท.สผ.ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานแหล่งบงกฎใต้ ก็มีกำไรพุ่งขึ้นมาโดยตลอด จึงอยากให้ผู้ตรวจฯดำเนินการตรวจสอบการคำนวณค่าไฟฟ้าในแต่ละช่วง ของระยะเวลาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนว่ามีการใช้ตัวเลขใดในการคำนวณ การซื้อไฟฟ้าที่ กฟผ.ซื้อจากเอกชนใช้หลักเกณฑ์ใดในการกำหนดราคาซื้อ-ขาย และมีสัดส่วนในการซื้อจากเอกชนรายใดบ้าง จำนวนเท่าใด สูตรในการคำนวณเอามาจากแหล่งใด
ด้านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กล่าวว่า จะเร่งนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้ผู้ตรวจฯพิจารณาโดยเร็ว