สาวช้ำ แม่ทิ้งไป 54 ปี โผล่เคลมเงิน 8 ล้าน หลังน้องตาย พูดจุกเป็นแม่ต้องได้มรดก
สาวสุดช้ำ แม่ทิ้งไป 54 ปี จู่ ๆ โผล่เคลมเงินประกัน 8 ล้าน หลังน้องชายเสียชีวิต เจอคำพูดจุกเป็นแม่ต้องได้มรดก
เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากทางรายการ True Story Expedition Team ของช่องเอ็มบีซี ได้นำเสนอข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างบุตรและมารดาผู้ให้กำเนิดที่ปรากฏตัวขึ้นหลังจากหายตัวไปเป็นเวลา 54 ปี เหตุต้องการเงินค่าประกันของบุตรชายที่เสียชีวิต
ตามคำให้การณ์ของพี่สาว แม่แต่งงานใหม่และทิ้งพวกเธอไปเมื่อยังเป็นเด็กเล็ก จากนั้นครอบครัวก็แตกแยกและตัดการติดต่อเป็นเวลา 54 ปี อย่างไรก็ตาม ตามสูจิบัตรยังคงมีความสัมพันธ์ในครอบครัว ต่อมาเมื่อน้องชายวัย 50 ปี สูญหายไปขณะทำงานบนเรือ ซึ่งจมลงสู่ท้องทะเลนอกเกาะเกียวเชและคาดว่าอาจเสียชีวิต เมื่อเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา
น้องชายยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีภรรยาและบุตร ส่วนพ่อก็เสียชีวิตไปนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนน้องชายจะเกิดส่งผลให้ตำรวจติดต่อแจ้งเรื่องไปทางแม่ ซึ่งแม่ก็รีบปรากฏตัวขึ้นทันที พร้อมกับลูกชาย ลูกสาว และลูกสะใภ้ ตามกฎหมาย แม่จะได้รับเงินทั้งหมด 300 ล้านวอน (ราว 8,201,661บาท) ซึ่งรวมถึงเงินประกันการเสียชีวิตของน้องชาย 250 ล้านวอน (ราว 6,834,717 บาท) และเงินอีก 50 ล้านวอน (ราว 1,366,943 บาท) จากบริษัทขนส่ง
ทางด้านพี่สาวของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า "ฉันคิดว่าแม่ของฉันตายแล้ว แม่แต่งงานใหม่ เมื่อน้องชายอายุ 3 ขวบ ฉันอายุ 6 ขวบ และพี่ชายอายุ 9 ขวบ น้องชายเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอมาโดยตลอดมักจะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นประจำ แม่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวแลลูก ข้าวก็ไม่เคยป้อนด้วยซ้ำ"
"แถมน้องยังไม่รู้จักแม้แต่ใบหน้าของแม่อีกต่างหาก มันสมเหตุสมผลหรือไม่ที่บุคคลดังกล่าวจะปรากฏตัวขึ้นหลังจากผ่านไป 54 ปีและโผล่มาการเรียกร้องสินไหมมรณกรรมและเอาเงินเคลมประกันเสียชีวิตของลูกชาย แม้ว่าป้ากับย่าของฉันจะไม่ใช่คนมีฐานะและมีชีวิตที่ลำบาก แต่ป้ากับย่าก็เป็นคนเลี้ยงพวกเรามา ป้ากับย่าต่างหากที่ควรได้เงินประกัน" ซึ่งทางพี่สาวได้ยื่นคำร้องต่อศาลไม่ให้จ่ายเงินประกัน
ทางด้านศาลแขวงปูซานสาขาตะวันตกยอมรับคำร้องคัดค้านของสมาชิกในครอบครัวในเดือนกุมภาพันธ์โดยระบุว่า “ผู้ปกครองไม่ควรได้สิทธิในการรับมรดกทางทรัพย์สิน เช่น เงินประกัน สำหรับลูกชายที่เสียชีวิต หากผู้ปกครองมิได้ปฏิบัติตามหรือทำหน้าที่ในฐานะผู้ปกครองที่พึงมี” อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงกระบวนการยืดเวลาไปเท่านั้น ตามกฎหมายปัจจุบัน มารดาเป็นผู้รับมรดกลำดับแรก ซึ่งในท้ายที่สุดก็อาจได้รับการประกันการเสียชีวิต
ทางด้านแม่ได้อ้างสิทธิผ่านรายการ True Story Expedition ของ MBC โดยเธอยืนกรานในสิทธิที่ต้องได้รับเงินประกันของลูกชาย "ฉันทำเพียงพอแล้วสำหรับลูก ๆ ของฉัน ฉันก็ควรจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ใช่หรือ"
เมื่อถูกถามว่า 'คุณคิดว่าคุณได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีแล้วหรือยัง' แม่ตอบกลับมาว่า "เมื่อตอนยังเด็ก ฉันเลี้ยงพวกเขาทั้งหมด โตมาด้วยตนเองหรือไง แล้วพวกลูกทำอะไรกับฉันบ้าง เคยซื้อยาหรืออาหารให้ฉันไหม แม้ลูกจะบอกให้ฉันตาย แต่ฉันจะไม่ตาย ฉันจะใช้เงินกับลูกชายของฉัน กฎหมายบอกว่า เงินประกันอย่างไรก็ฉันก็ต้องได้รับ ไม่ว่าแม่จะปฏิบัติตนอย่างไร ฉันก็จะได้ทุกอย่างในฐานะมารดาผู้ให้กำเนิด”
ในขณะเดียวกัน กฎหมายคูฮารา (ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแพ่ง) ซึ่งจำกัดสิทธิหรือตัดสิทธิในการรับมรดกของผู้ปกครองที่บกพร่องในการปฏิบัติตามหน้าที่เลี้ยงดูบุตร หากการกระทำของพวกเขาได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง (หากบิดามารดาละเลยหน้าที่ในการดูแลบุตร ศาสมีสิทธิตัดสินให้ไม่มีการแบ่งสินทรัพย์ของบุตรให้ในกรณีที่บุตรเสียชีวิต) ซึ่งมีผลบังคับใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขกฎหมายเพื่อบังคับใช้กฎหมายคูฮาราต่อประชาชนอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา ไม่นานหลังจากเรื่องราวของนายเอถูกเปิดเผยผ่านสื่อ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ซอ ยองกโย ตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นผู้นำการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินเรื่องการเคลมประกันเสียชีวิต
ขอบคุณที่มาจาก Joongang