'สหราชอาณาจักร' ใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น สกัดโควิด-19 'โอไมครอน'
ลอนดอน, 9 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (8 ธ.ค.) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าสหราชอาณาจักรจะเปลี่ยนไปใช้ข้อจำกัด "แผนบี" (Plan B) เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ในช่วงฤดูหนาวนี้
จอห์นสันยังเรียกร้องให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน หากเป็นไปได้ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (13 ธ.ค.) และระบุว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะเป็นข้อบังคับทางกฎหมายใน "พื้นที่สาธารณะในร่มส่วนใหญ่" เช่น โรงละครและโรงภาพยนตร์ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (10 ธ.ค.) เป็นต้นไปส่วนผู้ที่ต้องการเข้าไนต์คลับและอาคารขนาดใหญ่ต้องแสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สองโดสหรือผลตรวจโรคเป็นลบ เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า พร้อมเสริมว่าผู้มีประวัติใกล้ชิดผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน สามารถรับการตรวจโรครายวันแทนการแยกกักตัวได้อย่างไรก็ดี จอห์นสันระบุว่ามาตรการใหม่นี้ "ไม่ใช่การล็อกดาวน์" และประชาชน "ไม่ควร" ยกเลิกงานเลี้ยงคริสต์มาสหรือละครเวทีคริสต์มาส และไนต์คลับจะเปิดให้บริการต่อไปรัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่า "แผนบี" ถูกร่างขึ้นเมื่อเดือนกันยายน และจะช่วยรับมือกับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ใหม่ และลดโอกาสที่ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) จะเผชิญความกดดันอย่างต่อเนื่องอนึ่ง ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน มีอัตราการเติบโตสูงมาก และกำลังระบาดอย่างรวดเร็วเมื่อวันพุธ (8 ธ.ค.) สำนักงานความมั่นคงทางสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่ม 131 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ใหม่นี้รวมอยู่ที่ 568 ราย พร้อมชี้ว่าระยะเวลาที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเท่าตัวอาจสั้นแค่ 2 วันครึ่งถึง 3 วัน