รีเซต

#แบนเกาหลี เมื่อ ตม.คุมเข้ม หรือนี่อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายสกัดเหล่า "ผีน้อย"

#แบนเกาหลี เมื่อ ตม.คุมเข้ม หรือนี่อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายสกัดเหล่า "ผีน้อย"
TNN ช่อง16
2 พฤศจิกายน 2566 ( 08:28 )
104
#แบนเกาหลี เมื่อ ตม.คุมเข้ม หรือนี่อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายสกัดเหล่า "ผีน้อย"

#แบนเกาหลี กระแสตีกลับจากคนไทยที่มีโสมแดงเป็นจุดหมายปลายทาง ในอีกมุมนี่อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายเพื่อทำลายเหล่า#ผีน้อย



#แบนเกาหลี เป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงทุกครั้งที่มีข่าวกรณีคนไทยไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้หรือดินแดนโสมแดง เหตุการณ์เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกแต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่สังคมต้องกลับมาวิพากษ์วิจารณ์และวิจารณาทบทวนกันอีกครั้งว่า ประเทศนี้ควรจะเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนไทยต่อไปหรือไม่


กรณีที่เกิดขึ้นเกิดกับคนไทยท่านหนึ่งที่เดินทางไปเกาหลี ในครั้งล่าสุดซึ่งจะเป็นครั้งที่5 ของเธอ การเดินทางในครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา เธอไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกและยังถูกตั้งคำถามถึงข้อมูลพื้นหลังไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเดือนหรือจุดประสงค์ในการเข้าประเทศทั้งที่ที่ผ่านมาตลอด 4ครั้งไม่เคยมีปัญหาใดๆ เพียงแต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกับตั้งคำถามที่ไม่ควรถามด้วยซ้ำว่า ทำไมเธอไม่ไปเที่ยวประเทศอื่นบ้าง?


ถ้าเรามองย้อนกลับไปอีกหนึ่งคนที่ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธให้เข้าประเทศแต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว อย่างเช่นกรณีของ "มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล” จากค่ายYUPP ที่วีซ่าของเธอกับทีมงานไม่ผ่านจนทำให้พลาดการแสดงคอนเสิร์ต Hiphopplaya Festival หรือ จะเป็นกรณีของยูทูบเบอร์ด้านบิวตี้(ความสวยงาม)ที่การเดินทางไปเกาหลีเปรียบเหมือนการไปทำธุรกิจแต่สุดท้ายเธอกลับถูกกักตัวไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจนสามารถถ่ายเป็นวิดีโอรีวิวการติดตม.เกาหลีได้


การเดินทางเข้าประเทศเกาหลีไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆก็รู้


ต้องยอมรับว่าประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีซอฟพาวเวอร์ที่เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไม่ว่าจะเป็น วงการศิลปินไอดอล ที่เป็นซอฟพาวเวอร์หลักที่ทำให้คนอยากไปมีตติ้งกระทบไหล่ดารา ไปงานคอนเสิร์ต ไปตามรอยซีรีส์ดัง นอกจากนี้ประเทศโสมแดงเองยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างที่ดึงดูดชวนให้ต้องลองไปสักครั้ง นอกจากนี้ในช่วงหลังมานี้วงการธุรกิจความสวยความงามก็เปิดกว้างมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับจนใครหลายคนอยากจะไปเสริมสวยสักครั้งในชีวิต


แต่การเดินทาง ไปเที่ยวเกาหลีใต้ก็เป็นที่กล่าวขานกันต่อๆมาว่าใครผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ถือว่าโชคดี ซึ่งผู้ที่จะเดินทางไปเกาหลี ใต้สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีห้ามขาด คือ เรื่องเอกสารหลักฐาน พาสปอร์ต แผนการท่องเที่ยว รายละเอียดการจองที่พัก การจองท่องเที่ยว และ K-ETA (Korea electronic travel authorization) หรือ ระบบคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศเกาหลีใต้ สำหรับประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า


แต่นอกจากเรื่องพื้นฐานที่หลายประเทศก็มีระเบียบคล้ายๆกัน ผู้ที่เดินทางเข้าเกาหลี เป็นที่รู้กันว่าจะต้องมีการซักซ้อมการตอบคำถามให้แม่นยำมากที่สุดถึงจะได้รับอนุญาต ประการแรกจะต้องสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในขั้นพื้นฐาน ต้องตอบคำถามเบื้องต้นได้ว่าไปเที่ยวที่ไหน มากับใคร มากี่วัน พักที่ใด ซึ่งการตอบจะต้องเป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่รีบร้อน ใจเย็น ต้องผ่อนคลายให้มากที่สุด


นอกจากนี้เรื่องการแต่งตัวก็เป็นส่วนสำคัญมากที่เจ้าหน้าที่จะพิจารณาบุคคลนั้น จะต้องแต่งตัวให้พอดีไม่เวอร์เกินไปในส่วนนี้เคย มีผู้ออกมาเปิดเผยว่าการจะผ่านด่านตม.เกาหลีได้ห้ามใส่รองเท้าแตะหรือชุดลำลอง แต่ก็ห้ามใส่เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ห้ามแต่งชุดนอน การแต่งหน้าของผู้หญิงไม่ควรแต่งหน้าจัดเกินไปหรือแต่งกายโชว์เนื้อหนัง


บาดแผลจากแรงงานไทย อาจเป็นฉนวนในการผ่านด่าน ตม. เกาหลี


ในทุกครั้งที่มีการพูดประเด็นการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้หนึ่งปัจจัยที่คนมักจะหยิบยกขึ้นมาพูดก็คือปัญหาเรื่องแรงงานไทยที่ไปทำงานอย่างผิดกฎหมายหรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า “ผีน้อย”


ซึ่งที่มาของคำว่าผีน้อยอาจสามารถอุปทานได้ว่าเวลาเราใช้คำว่าผีคื อการสื่อถึงการทำผิดกฎเกณฑ์ หรือทำผิดกฏหมาย ต่อมาคนไทยกันเองก็เข้าใจว่าผู้ที่เดินทางไปทำงานที่เกาหลีอย่างผิดกฎหมายหรือไม่ได้รับการคุ้มครองก็ถูกเรียกว่า ผีน้อย


ทีมข่าว TNN Online ได้สรุปเหตุผลที่กลุ่มผีน้อยเลือกไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้ดังนี้ ประการแรกประเทศเกาหลีเองขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลางเนื่องจากประชากรส่วนใหญ่มักมักจะมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพราะ ค่านิยมของคนเกาหลีใต้นิยมกิจการที่มีเทคโนโลยีสูง และปฏิเสธงานประเภท “3D” งานยากลำบาก (Difficult) งานสกปรก (Dirty) และงานเสี่ยงอันตราย (Dangerous)





ประการที่สองคือค่าจ้างแรงงานในเกาหลีใต้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 


มีข้อมูลว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของเกาหลีใต้ ในปี 2563 ตามประกาศของกระทรวงการจ้างงานและแรงงาน คิดเป็นชั่วโมงละ 8,590 วอน ตีเป็นเงินไทยประมาณชั่วโมงละ 229 บาท ดังนั้นถ้าทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง จะได้ค่าจ้างเดือนละ ประมาณ 50,000 บาทซึ่งเงินจำนวนนี้ยังไม่รวมเงินตอบแทนพิเศษ 


ต้นทุนในการเดินทาง จากประเทศไทยไปเกาหลีถือว่าค่อนข้างต่ำการเดินทางสามารถบินตรงไปที่ประเทศเกาหลีได้โดยใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้เอกสารที่ยื่นมีเพียงพาสปอร์ตไม่ต้องขอวีซ่าพิเศษทำให้ กลุ่มผีน้อยเลือกเกาหลีเป็นจุดหมายในการไปขายแรงงานแม้จะมีกำแพงสำคัญคือกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมการเข้าออกของประเทศเกาหลีใต้ พ.ศ. 2520 (Exit and Entry Control Act 1977) ที่ไม่อนุญาตให้คนงานต่างชาติทำงานในเกาหลีใต้ ยกเว้นงานพิเศษบางประเภท


ทั้งนี้รายงานของกระทรวงยุติธรรมของประเทศเกาหลีใต้ ระบุถึง สถิติของหน่วยบริการตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า ยอดผู้อพยพเข้าประเทศเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย มีจำนวนทั้งหมด 395,068 คน นับเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ของเกาหลี


ขณะที่ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ได้ให้ข้อมูลไว้ว่ามีจำนวนคนไทยที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมาย มีจำนวน 42,538 คน แต่มีผู้ที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย มากถึง 139,245 คน 


ทางแก้ที่ดีที่สุดคืออะไร ทางกลับบ้านของคนไทยในเกาหลีมีไหม


เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกเดินทางไปทำงานที่เกาหลีคงหนีไม่พ้นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่ประเทศเกาหลีเองกำหนดไว้สูงมากกว่าที่ประเทศไทย การทำงานที่เกาหลีเพียงหนึ่งเดือนสามารถทำให้พวกเขาส่งเงินกลับมาบ้านเกิดได้มากถึงเดือนละ 20,000 ถึง 30,000 บาท ถ้าหลังจากนี้รัฐบาลไทยปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เพิ่มสูงขึ้นเราเองก็เชื่อว่าแรงดึงดูดจากประเทศเกาหลีก็น่าจะลดลงไปตามธรรมชาติ


ขณะเดียวกันสำหรับผีน้อยที่อยากจะกลับบ้าน รัฐบาลไทยเองก็เปิดโอกาสโดยร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลี ดำเนินโครงการ “เดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจแบบพิเศษ” เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พำนักแบบผิดกฎหมายรายงานตัวและกลับประเทศโดยสมัครใจ โดยสามารถไปแจ้งด้วยตัวเองได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ใดก็ได้ หรือแจ้งออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.hikorea.go.kr 


แต่สำหรับใครที่กำลังมองช่องทางในการไปทำงานที่เกาหลีอย่างถูกกฎหมาย ปัจจุบันประเทศไทย มีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี โดยภาครัฐผ่านโครงการ EPS ปีละ 10,000 อัตรา ในงานอุตสาหกรรมการผลิต งานเกษตร/ปศุสัตว์ และงานก่อสร้าง และโดยภาคเอกชน จำนวน 5,000 อัตรา ในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ ตำแหน่งช่างเชื่อม ช่างไฟฟ้า ช่างสีพ่นทราย และกำลังเจรจาจัดส่งแรงงานไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาล 


ทางกรมการจัดหางานได้ให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ”ซึ่งให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย


ไม่แน่ว่าหากปัญหาแรงงานผิดกฎหมายหรือผีน้อยหมดไปความตึงเครียดในการคัดกรองคนไทยเข้าประเทศเกาหลีใต้อาจจะได้รับการยืดหยุ่นมากกว่านี้ซึ่งนั่นเป็นผลดีที่ใครหลายคนจะมีโอกาสได้ไปเยือนดินแดนแห่งซอฟพาวเวอร์เดินตามรอยความฝันไปพบเจอสิ่งที่สวยงามที่อยู่ไม่ไกลประเทศไทย




ภาพ : TNNOnline 


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง