รีเซต

"เป๊ปซี่โค" จ่อหั่นราคา-เลิกผลิตบางสินค้าผู้บริโภคลดใช้จ่าย

"เป๊ปซี่โค" จ่อหั่นราคา-เลิกผลิตบางสินค้าผู้บริโภคลดใช้จ่าย
TNN ช่อง16
11 ธันวาคม 2568 ( 10:51 )
8

PepsiCo (เป๊ปซี่โค) บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก มีแบรนด์ขนมขบเคี้ยวอย่าง ชีโตส, โดริโทส, ฟริโต-เลย์ และเครื่องดื่ม เช่น เป๊ปซี่ เผยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ภายในต้นปีหน้า (2026) บริษัทฯ มีแผนจะลดราคาสินค้า รวมไปถึงยกเลิกสินค้าบางราย จากที่มีอยู่ร้อยละ 20 ตลอดจนการลดจำนวนพนักงานด้วย ทั้งบอกอีกว่า จะนำเงินที่ประหยัดได้ ไปลงทุนทำการตลาดและเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคมากขึ้นแทน

แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจะยกเลิกสินค้ารายการใดบ้าง ส่วนการลดราคาสินค้า ก็ยังไม่มีรายละเอียดเช่นกัน แม้จะเคยพูดมาก่อนนี้แล้วเกี่ยวกับการลดราคา แต่มีคาดการณ์ว่าจะชัดเจนมากขึ้นในต้นปีหน้า 

ด้านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะยังดำเนินต่อไป โดยจะปรับทิศทางของผลิตภัณฑ์บางรายการให้มีโปรตีน ใยอาหาร และธัญพืชเต็มเมล็ดมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งจะรวมถึง โดริโทส โปรตีน, แบรนด์ใหม่อย่าง Simply NKD รวมถึง ชีโตสและโดริโทส ที่ไม่มีการใช้กลิ่นหรือสีสังเคราะห์ ตลอดจนการลดระดับน้ำตาล อย่างผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว คือเครื่องดื่มเป๊ปซี่ สูตรใหม่ที่มี พรีไบโอติก เป็นต้น

Ramon Laguarta ซีอีโอ ของ เป๊ปซี่ โค กล่าวกับนักวิเคราะห์ว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ประหยัดได้จากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการทำงาน ไปใช้เพื่อลดราคาสินค้าหลักของบริษัทฯ และคาดว่าการลดราคานี้จะช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทให้เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งบอกด้วยว่า ได้ทดลองปรับลดราคามาระยะหนึ่งแล้ว จึงมั่นใจอย่างมากว่าจะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นได้ 

นอกจากนี้ เป๊ปซี่โค ยังเผยแนวโน้มอัปเดตสำหรับปีหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่า การเติบโตของรายได้แบบออร์แกนิกในปีบัญชี 2026 จะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 4 เทียบกับประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ราวร้อยละ 2.7 จากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 ที่ผ่านมา รายได้แบบออร์แกนิกของบริษัทฯ ดังกล่าว ยังเติบโตได้ อยู่ที่่ร้อยละ 1.5 

การเติบโตแบบออร์แกนิก ถือเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน ของนักลงทุน ซึ่งจะไม่นับรวมรายการอื่น ๆ เช่น การเข้าซื้อกิจการและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น 

ทั้งนี้ แผนดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเจรจาระหว่าง เป๊ปซี่โค และนักลงทุนเชิงรุก (activist investor) ที่ชื่อ Elliott Investment Management (เอลเลียต อินเวสเมนต์ แมเนจเมนต์) ที่เข้าถึอหุ้นในบริษัทฯ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้น เอลเลียต ได้ทำจดหมายถึงคณะกรรมการในเชิงที่ว่า บริษัทฯ กำลังประสบกับปัญหาจากการขาดความชัดเจนทางกลยุทธ์, มีการเติบโตที่ชะลอตัวลง และความสามารถในการทำกำไรลดลงในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในอเมริกาเหนือ

โดยราคาหุ้นของ เป๊ปซี่ ตามหลังคู่แข่งสำคัญอย่าง โคคาโคลา มาโดยตลอด

ด้าน Marc Steinberg หุ้นส่วนของ เอลเลียต ระบุในแถลงการณ์ ว่า ขอชื่นชมการทำงานของทีมผู้บริหาร และความเร่งด่วนที่แสดงให้เห็น และมั่นใจว่าแผนดังกล่าวจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทได้มากขึ้น ทั้งการลงทุนเพื่อทำให้สินค้ามีความคุ้มค่า, การเร่งออกสินค้านวัตกรรม และการลดต้นทุนอย่างเข้มข้น 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ มองว่า กลยุทธ์หลักบางส่วนของ เป๊ปซี่ โค นั้นได้ถูกวางแผนไว้ก่อนหน้าที่ เอลเลียต จะเข้ามามีบทบาทในบริษัทฯ อยู่แล้ว

Robert Moskow นักวิเคราะห์จาก TD Cowen ให้ความเห็นในบทวิเคราะห์ ว่า การมีส่วนร่วมของ เอลเลียต นั้น เป็นการเร่งให้เป๊ปซี่โคดำเนินกลยุทธ์เร็วขึ้น มากกว่า ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องปลดพนักงาน ตามรายงานข่าว ระบุว่า เป๊ปซี่ ได้แจ้งให้พนักงานในสำนักงานหลายแห่งในอเมริกาเหนือ รวมถึงสำนักงานใหญ่ที่เพอร์เชส นิวยอร์ก รวมถึง ชิคาโก และเพลโน ในรัฐเท็กซัส ว่าให้ทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นสถานการณ์ที่หลาย ๆ บริษัทฯ เลือกทำก่อนประกาศเลิกจ้าง

ลากวาร์ตา ซีอีโอ เป๊ปซี่ กล่าวว่า บริษัทฯ กำลังดำเนินมาตรการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อให้สามารถลงทุนด้านอื่น ๆ ของธุรกิจได้ 

ในเดือนพฤศจิกายน บริษัทดังกล่าว ประกาศว่าจะปิดโรงงาน ฟริโต เลย์ ในออร์แลนโด ฟลอริดา และส่งผลให้พนักงานกว่า 450 คนถูกเลิกจ้าง ซึ่งในขณะนั้นบริษัทกล่าวว่า การปลดพนักงานถือเป็นความจำทางธุรกิจ 

นอกจากนี้ สื่อต่างประเทศ รายงานด้วยว่า แผนธุรกิจ หรือข้อตกลงดังกล่าวนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาประนีประนอมระหว่างกันของทั้งสองฝ่าย เพื่อทำให้ เป๊ปซี่โค สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือขัดแย้งกันกับนักลงทุนรายนี้ ในศึกชิงมติผู้ถือหุ้นที่อาจทำให้มีต้นทุนสูงและอาจยืดเยื้อได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการมอบตำแหน่งในคณะกรรมการให้กับทาง เอลเลียต รวมทั้ง ไม่ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้งหมด เช่น กรณีที่เสนอให้ ทบทวนการใช้เครือข่ายผู้บรรจุขวดอิสระแทนดำเนินการด้วยตัวเอง แต่บริษัทฯ จะยังดำเนินธุรกิจบรรจุขวดของตนเองในหลายแห่ง 

นักวิคราะห์ ระบุว่า การที่ เป๊ปซี่โค ไม่ได้พิจารณาการขายสิทธิดำเนินการแบบเต็มรูปแบบของธุรกิจในอเมริกาเหนือนั้น เพราะเชื่อว่า จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในตลาด หรือสร้างมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถืหุ้นได้ แต่บริษัทฯ ก็กำลังทดสอบโมเดลที่ผสานผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเข้าด้วยกันมากขึ้นในรัฐเทกซัส และจะใช้เแนวทางที่เฉพาะเจาะจงตามบริบทที่เหมาะสม เพื่อพิจารณาพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปทั่วประเทศ 

และข้อตกลงดังกล่าว ยังช่วยทำให้ทาง เป๊ปซี่โค รวมถึง ซีอีโอ, รามอน ลากวาร์ตา หายใจหายคอคล่องมากขึ้นด้วย เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทฯ ยังต้องเผชิญกับผู้บริโภคที่ลดการใช้จ่าย ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังสูงต่อเนื่อง อีกด้วย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง