รีเซต

SNNP โบรกฯ หั่นกำไรปี 66-68 สะท้อนการเติบโต ที่ลดสู่ระดับปกติ

SNNP โบรกฯ หั่นกำไรปี 66-68 สะท้อนการเติบโต ที่ลดสู่ระดับปกติ
ทันหุ้น
18 ตุลาคม 2566 ( 12:02 )
88
SNNP โบรกฯ หั่นกำไรปี 66-68 สะท้อนการเติบโต ที่ลดสู่ระดับปกติ

#ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส ส่องหุ้น SNNP เข้าโหมดการเติบโตปรับสู่ระดับปกติ คาดแนวโน้มกําไร Q3/66 ยังเดินหน้าทํานิวไฮ สวนทางฤดูกาล แต่การเติบโตไม่ตื่นเต้น กําลังซื้อในไทยและ CLMV ไม่สดใสนัก ทําให้ภาพรวม SNNP ตํ่ากว่าที่ฝ่ายวิจัยเคยคาด ปรับลดกําไรปี 2566-68 และ De-rate valuation เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลงสู่ระดับปกติ แต่ราคาหุ้นปรับลงมากในช่วงก่อนหน้า ยังคงเรทติ้งเป็น ซื้อ

 

คาดกําไร Q3/66 ยังทํานิวไฮได้ต่อ แต่การโตอาจไมตื่นเต้น คาดกําไรสุทธิ Q3/66 อยู่ที่ 161 ลบ. (+2.5% q-q, +13% y-y) ยังขยับขึ้นทํานิวไฮต่อเนื่อง แต่การเติบโตไม่ตื่นเต้น แม้รายได้ส่งออกยังเติบโตได้ดีทั้ง CLMV และประเทศอื่นๆ แต่รายได้ในประเทศค่อนไปในทางทรงตัวถึงโตเพียงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเพราะเป็น Low Season ของธุรกิจ จึงคาดรายได้รวม +3% q-q, +3.2% y-y ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มปรับลดลง จึงคาดอัตรากําไรขั้นต้นจะขยับขึ้นเป็น 28% จาก 27.3% ใน Q3/65 กอปรกับบริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงไตรมาสก่อน ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากปีก่อน จึงคาด SG&A to sales ทรงตัว q-q ที่ 14.7% และลดลงจาก 16% ใน Q3/65

 

เป้าหมายใหม่เวียดนามยังคงท้าทายในมุมมองของฝ่ายวิจัย คาดรายได้เวียดนาม Q3/66 จะโต +11.4% q-q, +9.5% y-y ถือว่าทําได้ดีในยามที่เผชิญปัญหากําลังซื้อไม่สดใส แต่ก็ยังโตตํ่าดว่าที่เคยคาดไว้ หาก Q3/66 ทําได้ตามคาด จะมีรายได้เวียดนาม 9M66 อยู่ที่ 499 ลบ. (+29% y-y) คิดเป็นเพียง 60% ของเป้าทั้งปีที่บริษัทตั้งไว้ 800-850 ลบ. (ปรับลงจากต้นปีที่ 1 พันลบ.) หากจะบรรลุเป้าหมาย นั่นหมายถึง Q4/66 จะต้องทํารายได้สูงถึง 300 ลบ. ถือว่าท้าทายพอควร ขณะที่การขยายกําลังการผลิต Bento (เฟส 2) เลื่อนออกไปเป็น ต.ค.66 จากเดิม ส.ค.66 ส่วนไลน์ Jele ก็เลื่อนเป็น พ.ย.-ธ.ค.23 จากเดิม ต.ค.23 แต่ไม่มีปัญหาการขาย เพราะยังมีการส่งออกจากไทยไปได้ คาดจะรับรู้ 3 ไลน์ของเวียดนามได้เต็มปีในปี 2567 ตามเดิม

 

ปรับลดกําไรปี 2566-68 ลง จากกําไรที่โตตํ่ากว่าที่เคยคาด หากกําไร Q3/66 ทําได้ตามคาด บริษัทจะมีกําไร 9M66 อยู่ที่ 471 ลบ. (+29.7% y-y) คิดเป็น 68% ของประมาณเดิมของฝ่ายวิจัย ถือว่าโตตํ่ากว่าที่เคยคาดไว้ ดังนั้นจึงปรับลดกําไรสุทธิปี 2566-68 ลง 7%/9%/8.8% โดยคาดกําไรปี 2566 จะโต 25.5% y-y (เดิมคาดโต 35%) ระยะสั้นยังคาดแนวโน้มกําไร Q4/66 จะโตต่อเนื่อง q-q, y-y และทําจุดสูงสุดใหม่ และคาดกําไรปี 2567 จะโตต่อราว 13.3% y-y ส่วนบริษัทร่วม Siri Pro เพิ่งปรับโครงสร้างแล้วเสร็จ ผู้บริหารตั้งเป้าจะคุ้มทุนได้อย่างเร็วภายในปลายปี 2567 

 

De-rate valuation สะท้อนการเติบโตที่ปรับลงสู่ระดับปกติ ฝ่ายวิจัยปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 21 บาท โดยปรับลด PE จากเดิม 40x (+2.5 SD)เป็น 27x (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ปรับลงสู่ระดับปกติ แต่ราคาหุ้นที่ปรับลง -31% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนกําไรที่โตน้อยลงไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ราคาเป้าหมายใหม่ของฝ่ายวิจัยยังมี Upside ราว 12% ยังแนะนํา ซื้อ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง