รีเซต

วิธีทำบัตรทอง และตรวจสอบสิทธิ์บัตรทอง 5 ช่องทาง ด้วยตนเองง่ายๆ

วิธีทำบัตรทอง และตรวจสอบสิทธิ์บัตรทอง 5 ช่องทาง ด้วยตนเองง่ายๆ
TrueID
17 กันยายน 2563 ( 09:02 )
59.3K
2
วิธีทำบัตรทอง และตรวจสอบสิทธิ์บัตรทอง 5 ช่องทาง ด้วยตนเองง่ายๆ

สำหรับสิทธิบัตรทอง หรือ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง/30 บาทรักษาทุกโรค) ล่าสุดได้ยกเลิกเก็บ 30 บาท ในกลุ่มประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกรณีที่เจ็บป่วยฉุกเฉินซึ่งผู้ใช้สิทธิบัตรทองกับสถานพยาบาลอยู่คนละพื้นที่กัน สามารถใช้สิทธิบัตรทองแบบฉุกเฉินกับสถานพยาบาลนอกเขตพื้นที่ได้ แต่ถ้าเจ็บป่วยทั่วไปและใช้สิทธิข้ามเขต ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายยาเองทั้งหมด และมีการขยายความคุ้มครอง บัตรทอง ปี 2564 จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 อนุมัติงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ปี 2564 รวมทั้งสิ้น 194,508.79 ล้าน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 2.2 % และมีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ – บริการ ดังนี้  1.เพิ่มวัคซีน “หัด, คางทูม, หัดเยอรมัน” (MMR) ในเด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน 2.เพิ่มการคัดกรองภาวะ “ดาวน์ซินโดรม” ให้กับหญิงตั้งครรภ์ทุกกลุ่มอายุ 3.โครงการรับยาใกล้บ้านโมเดล 1-3 4.บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังผู้ป่วยที่บ้าน 5.บริการโทรเวชกรรม (Telemedicine) และ Telehealth ดังนั้นสำหรับประชาชนที่สนใจจะสมัครบัตรทองหรือต้องการเช็คสิทธิ์บัตรทองด้วยตนเอง จะทำบัตรทองได้อย่างไร ช่องไหนบ้างที่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ trueID news จะพาไปรู้จักวิธีการดังกล่าวกัน

 

 

 

 

วิธีการทำบัตรทองด้วยตัวเอง


สิ่งที่ท่านต้องเตรียมหลักฐานที่ใช้ในการติดต่อ

 

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งทางราชการออกให้ กรณีเด็กต่ำกว่า 7 ปี ใช้สำเนาใบสูติบัตร (ใบเกิด) แทน
  2. สำเนาทะเบียนบ้านที่ผู้ขอมีชื่ออยู่ กรณีพักอาศัยอยู่จริงไม่ตรงตามทะเบียนบ้าน จะต้องแนบสำเนาทะเบียนบ้านของบุคคลที่ตนไปพักอาศัยอยู่ พร้อมหนังสือรับรองของเจ้าบ้าน หากเป็นบ้านเช่าหรือหอพักใช้เอกสารหลักฐานอื่น ๆ เช่น สัญญาเช่าที่พัก ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่พัก ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำ ใบเสร็จรับเงินค่าโทรศัพท์บ้าน ที่แสดงว่าผู้ขอลงทะเบียนพักอาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ จริง

 

สถานที่ติดต่อขอทำบัตรทองสำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร

 

1. สำนักงานเขต 19 แห่ง ขณะนี้สามารถทำบัตรทองได้ที่สำนักงานเขต 19 แห่ง ดังนี้ (ยังคงมีเจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประจำอยู่) คลองสามวา-คลองเตย-ธนบุรี-บางกะปิ-บางขุนเทียน-บางพลัด-บางแค-ประเวศ-พระโขนง-มีนบุรี-ราชเทวี-ราษฎร์บูรณะ-ลาดกระบัง-ลาดพร้าว-สายไหม-หนองจอก-หนองแขม-หลักสี่-ห้วยขวาง โดยจุดรับลงทะเบียนบัตรทองที่สำนักงานเขต สามารถสอบถามเขตที่เปิดให้บริการ โทร.1330 (เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม) หรือตรวจสอบข้อมูลได้ที่ http://bkk.nhso.go.th คลิ๊กเลือก สำหรับประชาชน เลือก แผนที่จุดรับลงทะเบียน ณ สำนักงานเขต เวลาให้บริการ 08.00- 16.00 น. (จันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ )


2. สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ระยะเวลาการเปิดให้บริการ : ยังไม่มีกำหนดปิด วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 19.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00 – 17.00 น.  โดยสามารถแจ้งขอเปลี่ยนโรงพยาบาลได้


3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ทั้ง3 สาขา ได้แก่  

  1. สาขาย่อยหมอชิต 2 ระยะเวลาการเปิดให้บริการ : ยังไม่มีกำหนดปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 19.00 น. 
  2. สาขาย่อยตลาดยิ่งเจริญ ระยะเวลาการเปิดให้บริการ : ยังไม่มีกำหนดปิด  วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.30 – 16.30 น.  
  3. สาขาย่อยวัดไทร ระยะเวลาการเปิดให้บริการ : ยังไม่มีกำหนดปิด วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 15.30 น.  หมายเหตุ : โดยทั้ง3 สาขานี้ท่านสามารถแจ้งขอเปลี่ยนโรงพยาบาลได้


4. ธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน ระยะเวลาการเปิดให้บริการ ยังไม่มีกำหนดปิด วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 15.30 น. ท่านสามารถแจ้งขอเปลี่ยนโรงพยาบาลได้

 


สถานที่ติดต่อขอทำบัตรทองสำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด 

 

1.สถานีอนามัย

2.โรงพยาบาลของรัฐที่อยู่พื้นที่

3.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
 

หลังจากยื่นดำเนินการเสร็จแล้ว สิทธิ์บัตรทองจะเกิดต้องรอประมาณ 30 วัน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่หมายเลขสายด่วน 1330 ว่า ณ ตอนนั้นสิทธิ์เกิดแล้วหรือไม่ ตรวจสอบได้ในวันที่ 15 หรือวันที่ 28 ของเดือน แต่หากเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมาในระหว่างที่รอการเกิดสิทธิ์ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ โดยติดต่อได้ที่หน่วยบริการที่ระบุในบัตร นำบัตรประจำตัวประชาชน ,สำเนาทะเบียนบ้านยื่นต่อทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลด้วย

 

วิธีตรวสอบสิทธิบัตรทอง (หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ด้วยตนเอง ผ่านทาง 5 ช่องทางดังนี้


1.ท่านสามารถติดต่อด้วยตนเองได้ที่ สำนักงานเขต กทม. (19 เขต)/ สปสช. เขตพื้นที่ 1-13/ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/ โรงพยาบาลของรัฐ

2.โทรสายด่วน สปสช. 1330 จากนั้นกด 2 ตามด้วยหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และเครื่องหมาย #

3.ติดต่อผ่าน Application “สปสช.” สามารถดาวน์โหลดฟรี ได้ทั้งระบบ Andriod และ iOS (สแกน QR Code เพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน) (หมายเหตุ : เมื่อลงทะเบียนติดตั้งแอปพลิเคชันเรียบร้อย สามารถเข้าใช้งานฟังก์ชั่น ตรวจสอบสิทธิตนเอง และตรวจสอบสิทธิคนในครอบครัวได้ทันที)

4.ติดต่อผ่าน LINE Official Account สปสช. – แอดเป็นเพื่อนง่าย ๆ พิมพ์ค้นหา Line ID @nhso หรือ สแกน QR Code/ หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/zzn3pU6(หมายเหตุ : ใช้งานง่าย ๆ เพียงเลือกฟังก์ชั่น “ตรวจสอบสิทธิ” และกรอกข้อมูล ก็สามารถตรวจสอบสิทธิได้แล้ว)

5.ติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th (เข้าเมนูประชาชน เลือกหัวข้อ “ตรวจสอบสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” หรือคลิกลิงก์นี้ https://eservices.nhso.go.th/eServices/

 

 

 

 

ภาพปกโดย Bruno /Germany จาก Pixabay 

++++++++++++++++++++

ข่าวที่เกี่ยวข้อง