‘ธปท.’ เดินหน้าพัฒนาทดลองการใช้เงินดิจิทัล หวังนำมาใช้กับรายย่อย แต่ต้องไม่แข่งกับธนาคารพาณิชย์
‘ธปท.’ เดินหน้าพัฒนาทดลองการใช้เงินดิจิทัล หวังนำมาใช้กับรายย่อย แต่ต้องไม่แข่งกับธนาคารพาณิชย์
นางสาววชิรา อารมณ์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการดำเนินการของโครงการอินทนนท์ หรือโครงการทดลองการใช้เงินดิจิทัลของธปท. (ซีบีดีซี) ขณะนี้อยู่ในระหว่างพัฒนาระบบการโอนเงินโดยใช้ซีบีดีซีที่มีค่าเท่ากับเงินบาทมาเพื่อทดลองใช้กับผู้โอนที่เป็นองค์กรภายในปีนี้ โดยมีแผนที่จะศึกษาต่อเพื่อนำมาใช้กับรายย่อย หลังจากในเฟสที่ผ่านมาได้ทดลองดำเนินการกับการขายส่งไปแล้ว ซึ่งการขยายไปสู่รายย่อยยังอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบในการดำเนินการที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นการแข่งขันกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นการทดลองเตรียมระบบเงินดิจิทัล ในการมองไปข้างหน้าเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตแทนมากกว่า โดยขณะนี้ได้ดำเนินการมาถึงเฟสที่ 4 ซึ่งเป็นเฟสที่ให้บริษัทเอกชนทดลองใช้เงินดิจิทัลของธปท. ชำระค่าสินค้าและบริการในเครือ และบริษัทที่เป็นเครือข่ายในการผลิตสินค้า เพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจนว่า การใช้เงินดิจิทัล แทนเงินบาท ในภาคที่เล็กลงกว่าการโอนเงินระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นการโอนเงินระหว่างรายใหญ่ ที่ทำไปแล้วในเฟส 1 และ 2 ว่า มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร และสามารถลดต้นทุน และเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินให้กับบริษัทเอกชนมากเท่าใด ในส่วนของทิศทางค่าเงินบาท ที่อาจมีความผันผวนอ่อนค่ารวดเร็ว เพราะมีเงินทุนไหลออก มองว่าไม่ได้มีกังวลเท่าที่ควร
“การโอนเงินข้ามประเทศมีแผนที่จะทดลองทำร่วมกับฮ่องกง และธนาคารกลางอื่นๆ ซึ่งการโอนผ่านระบบซีบีดีซีมีข้อดี คือ ไม่ต้องมาผ่านระบบของธนาคารกลาง ไม่ต้องมีบัญชีกับธนาคารกลาง ช่วยลดต้นทุน และทำให้บริหารสภาพคล่องได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มทางเลือกในระบบการโอนเงินดิจิทัล” นางสาววชิรากล่าว
นางสาววชิรากล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการที่เห็นคนไทย มีบัญชีเงินดิจิทัล และใช้แทนเงินบาทที่เป็นธนบัตร หรือเงินในระบบอิเลกทรอนิกส์จริงนั้น ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งยาวๆ เพราะการออกแบบการใช้จะต้องคำนึงถึงในหลายเรื่องทั้งตัวคุณสมบัติของซีบีดีซีที่จะนำไปใช้ได้ ระบบการรายงานข้อมูล และคนกลางที่จะเป็นตัวดูแลธุรกรรมให้เป็นอย่างเหมาะสม และเป็นไปตามกฎหมาย รวมทั้งผลกระทบที่จะมีต่อสถาบันการเงิน โดยการมีบัญชีเงินดิจิทัลของคนไทยในขณะนี้ควรจะช่วยลดต้นทุนการชำระเงิน ต้นทุนค่าธรรมเนียม ลดต้นทุการถือเงินสด หรือการมีธนบัตร สามารถที่จะโอนเงินได้ 7 วัน 24 ชั่วโมง แต่จะต้องไม่ไปสร้างอุปสรรคหรือทดแทนการทำธุรกรรมของธนาคารพาณิชย์ หรือการรับฝากเงินของธนาคารพาณิชย์
นางสาววชิรากล่าวว่า สำหรับส่วนธปท.จะมีแนวคิดเข้าร่วมกับเงินดิจิทัลลิบราของเฟซบุ๊กหรือไม่นั้น ค่อนข้างมีความเป็นไปได้น้อยที่จะเข้าร่วมด้วย และต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ รวมทั้งปรับกฎหมายต่างๆ ใน พ.ร.บ.เงินตราของไทย และหลายๆ ประเทศให้เข้ากับเงินแบบใหม่ ซึ่งไม่ง่ายและเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน เพราะไม่ได้อยู่ในระบบการธนาคารพาณิชย์หรือเป็นสถาบันการเงินที่อยู่ในหลักเกณฑ์ และเท่าที่ประเมินแล้วเฟซบุ๊กก็ดูจะปิดมากขึ้น จึงน่าจะเป็นเรื่องยากที่ธปท.จะเข้าร่วมได้ โดยขณะนี้มีหลายธนาคารกลางที่กำลังสร้างเงินดิจิทัของตนเอง ซึ่งจากการหารือกับธนาคารกลางในรอบแรก เฟสบุ๊กเองก็เข้าใจมากขึ้นว่า จะต้องเข้าสู่ระบบและกฎเกณฑ์ของธนาคารกลางแต่ละประเทศ ซึ่งมีความยากง่ายแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ