ทั้งตำบลมีตู้เดียว! ชาวบ้านขอตู้เอทีเอ็มเพิ่ม โอดเสียบ่อย จ้างกดต่างที่ครั้งละ 100
ชาวหนองบอนเดือดร้อน ทั้งตำบลมีตู้เอทีเอ็มเพียงตู้เดียว แถมเจอปัญหาเสียบ่อย-เงินหมด คนแก่ต้องจ้างไปกดต่างอำเภอ เสียเงินครั้งละ 100 เรียกร้องมานับ 10 ปีแล้ว
เมื่อวันที่ 16 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ที่ต.หนองบอน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ตำบลของ อ.บ่อไร่ จ.ตราด ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 7,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและพ่อค้า ที่ทำธุรกิจด้านเกษตรกรรม
รวมทั้งผู้สูงอายุในพื้นที่ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในการทำธุรกรรม และซื้อสินค้าเพื่อใช้ชีวิตประจำวัน แต่ปรากฏว่า ที่ต.หนองบอนต้องมีตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยเพียง 1 ตู้ เท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณข้างสำนักงานกศน.หนองบอน และจะมีประชาชนมาใช้บริการวันละหลายร้อยคน/วัน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือในช่วงปลายเดือนและต้นเดือน จะมีผู้สูงอายุและทหารชายแดน รวมทั้งประชาชนทั่วไปมาใช้บริการกดเงินสดเป็นจำนวนมาก และมักจะเกิดปัญหาเงินหมด หรือตู้เสียด้วยสาเหตุต่างๆ
น.ส.รมย์ลวิน รัตนาธรรม ประชาชนในพื้นที่ต.หนองบอน กล่าวว่า ต้องการใช้เงินสดเพื่อนำมาใช้จ่ายซื้อของ แต่เมื่อมาใช้บริการกลับมีปัญหาเกิดขึ้น ทั้งเรื่องเงินหมดและตู้เสียจากสาเหตุต่างๆ เช่น ไฟดับ ทำให้ต้องเดินทางไปใช้บริการที่ตัวอำเภอบ่อไร่ หรือที่ ต.แสนตุ้ง ที่ต้องใช้เวลานานเนื่องจากไกลจากต.หนองบอน ประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ส่วนการใช้แอพพลิเคชั่นก็ได้ แต่ผู้สูงอายุ ยังจำเป็นต้องใช้ตู้เอทีเอ็ม จึงควรจะมีตู้เอทีเอ็มเพิ่ม
พลทหารอำไพ ปิยะ ทหารนาวิกโยธินตราด ที่ประจำชายแดนคนหนึ่ง กล่าวว่า ต้องมากดเงินใช้ในตู้เอทีเอ็มทุกวัน วันละ 2-3 คนั้ง รวมทั้งเพื่อในพื้นที่ แต่พื้นที่ห่างไกลสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทำให้ไม่มีสัญญาณจึงต้องเดินทางมาใช้ตู้เอทีเอ็ม หากไม่มีตู้เอทีเอ็มหรือหากเสีย จะได้รับผลกระทบ ต้องเดินทางไปไกล อยากจะให้เพิ่มตู้เอทีเอ็มมากขึ้น
น.ส.ชนัญญา ธนันทอง แม่ค้าขายของหน้าซอยที่ติดตั้งตู้เอทีเอ็ม กล่าวว่า มีคนต่างถิ่นมักมาใช้ และกดเงินไม่ได้ก็โกรธ โมโหบอกว่ามีตู้เอทีเอ็มตู้เดียว ส่วนการใช้แอพฯ ธนาคารมีน้อยหรือไม่ใช้ก็มาก ช่วงใกล้สิ้นเดือนจะมีผู้สุงอายุมาใช้บริการมาก ทำให้ต้องต่อคิวยาว
"บางทีก็เกิดปัญหาตู้เสียจากบัตรคาอยู่ในตู้ เพราะคนแก่ใช้ไม่เป็น ทำให้ตู้เสียกว่าที่พนักงานธนาคารจะมาแก้ไขก็ต้องใช้เวลาหลายวัน ซึ่งหันมาใช้แอพฯธนาคารผู้สูงอายุก็ทำไม่เป็นอีก หรือเติมแล้วเน็ตก็ไม่ดีอีก บางครั้งก็ต้องยอมเสียเงินจ้างคนไปกดที่อำเภอบ่อไร่ ครั้งละ 100 บาท เป็นอย่างน้อย ซึ่งธนาคารควรจะเพิ่มตู้ให้มากขึ้น เพราะคนใช้บริการมาก" น.ส.ชนัญญา กล่าว
นางพลอย จันสอน แม่ค้าขายของชำอีกคน เล่าว่า ปัญหาของตู้เอทีเอ็มก็คือ เงินหมดไว เสียบ่อย ตู้เอทีเอ็มที่อื่นก็ไกล ชาวหนองบอนยังต้องการใช้ตู้เอทีเอ็มกดเงินอยู่ แม้บางรายจะมีแอพฯ ธนาคารแล้วก็ตาม แต่ชาวบ้านบ้างคนยังจำเป็นต้องใช้ เงินสด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่มีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ 600-700 บาท หลายคนต้องจ้างคนไปกดในตู้เอทีเอ็มในพื้นที่อื่น ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายครั้งๆ ละ 100 บาท
ส่วนของที่ร้านหากใช้แอพฯ ได้ก็ดี หากต้องการเงินก็จะให้บริการ คืออยากได้ 1-2 พันบาท ต้องจ่ายค่าบริการ 20 บาท/ครั้ง ที่ร้านอื่นๆ ก็ทำกันอย่างนี้ ส่วนจำนวนผู้มาใช้บริการจะใช้กันมาก แต่ไม่รู้ว่าวันละเท่าไร
นายนันทวัฒน์ กำเนิดสินธ์ ผู้ประกอบการค้าผลไม้ และสมาชิกสภาอบจ.ตราดเขตอำเภอบ่อไร่ เปิดเผยว่า ตู้เอทีเอ็มในหนองบอนมีเพียงตู้เดียว ทำให้ได้รับการร้องขอจากพี่น้องประชาชนชาวตำบลหนองบอนมานาน ก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกสภา อบจ.ตราด เพราะตำบลหนองบอนวันนี้ มีประชาชนจำนวนมาก ต้องทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งการใช้เงินสดและทางแอพฯธนาคาร
โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยั้งชีพ และได้รับเงินจากลูกหลานที่ส่งมาให้เป็นรายเดือน ต้องมากดเงินใช้ในช่วงปลายเดือนและต้นเดือน เมื่อกดเงินไม่ได้ก็ต้องจ้างคนไปกดที่อำเภอบ่อไร่หรือที่อื่น ซึ่งมีค่าใช้จ่าย จึงประวานงานไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ อ้างว่าขาดทุน เพราะมีค่าจัดการสูง ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ก็เป็นลูกค้าธนาคารแห่งนี้จำนวนมาก
นายภานุวัฒน์ พุทธเกสร นายอำเภอบ่อไร่ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เรียกร้องมานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการดำเนินการ ล่าสุดหารือกับผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งที่เป็นของรัฐในอำเภอบ่อไร่ คุยกับผู้จัดการสาขาก็ได้รับการชี้แจงในที่ประชุมว่า ไม่มีนโยบายเพราะต้นทุนสูง และไม่สามารถทำกำไรได้
ซึ่งธนาคารควรมองในเรื่องของการบริการประชาชนมากกว่า ซึ่งวันนี้ตนจำทำหนังสือในนามอำเภอบ่อไร่ ส่งไปยังผู้บริหารของธนาคารในส่วนกลาง เพื่อขอความอนุเคราะห์ในเรื่องการนำตู้เอทีเอ็มมาติดตั้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป เพราะพวกเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากดเงินในตัวอ.บ่อไร่ ซึ่งไม่ควรจะเสีย