รถไฟคุมเข้มสกัดโควิด เปิดขายตั๋วแบบเว้นระยะห่างที่นั่ง ต้องระบุเหตุผลชัดก่อนเดินทาง
การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศมาตรการเพื่อความปลอดภัยส่วนรวม ตามพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ฉบับที่ 2
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ตามที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างรวดเร็วและมีการแพร่กระจายพบผู้ติดเชื้อทั่วภูมิภาคของประเทศไทย เพราะเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งการรถไฟฯ ได้มีประกาศมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 และต่อมารัฐบาลได้มีการประกาศใช้พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และได้มีข้อกําหนดฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563
กําหนดข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการต่างๆ และประชาชนตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อใช้บังคับทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ดังนั้นเพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกําหนดดังกล่าว การรถไฟฯ จึงขอกําหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นระยะดังต่อไปนี้
1. การจําหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟ
ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป การรถไฟฯ จะใช้มาตรการ Social Distancing กับขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ (ขบวนรถที่มีการสํารองที่นั่ง) โดยการจํากัดการขายตั๋ว เพื่อให้มีระยะห่างที่ปลอดภัยต่อการแพร่กระจายเชื่อในขบวนรถไฟ ดังนี้
– รถนั่งชั้น 3 รถนั่งชั้น 3 ปรับอากาศ รถนั่งชั้น 2 และรถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ จะจําหน่ายตัวร้อยละ 25 ของที่นั่ง ทั้งนี้เมื่อจําหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่มีการจําหน่ายตั๋วอีก รวมทั้งตัวไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน)
– รถนั่งและนอนชั้นที่ 2 รถนั่งและนอนชั้นที่ 2 ปรับอากาศ และรถนั่งและนอนชั้นที่ 1 ปรับอากาศ จะจําหน่ายตัวร้อยละ 50 ของที่นั่งทั้งหมด เมื่อจําหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่มีการจําหน่ายตั๋วอีก
โดยทั้งหมดเมื่อจําหน่ายตั๋วเต็มตามประเภทรถที่ระบุแล้วไม่พ่วงรถเพิ่มอีก เนื่องจากต้องนํารถไปใช้ตามมาตรการ Social Distancing กับขบวนรถอื่นที่มีความจําเป็น จึงขอให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้สํารองที่ล่วงหน้างดการเดินทาง
สําหรับขบวนรถบริการเชิงสังคม (ระหว่างเมือง) ขบวนรถชานเมือง ขอให้ผู้โดยสารดําเนินการ
ตามมาตรการ Social Distancing โดยรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า 1 – 2 เมตร ตามข้อกําหนดฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ซึ่งออกตามพระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ทั้งนี้ พนักงานประจําขบวนรถ จะเป็นผู้พิจารณากําหนดที่นั่งให้ผู้ใช้บริการตามความเหมาะสมต่อไป
2. การซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟ และการโดยสารบนขบวนรถไฟ ผู้ใช้บริการซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟทุกแห่งจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
2.1 ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งเมื่อเข้าใช้บริการซื้อตั๋ว โดยสารที่สถานีรถไฟและขณะโดยสารบนขบวนรถ
2.2 กรอกคําร้องประกอบการซื้อตั๋วโดยสาร ซึ่งต้องระบุ ชื่อ – สกุล เลขที่บัตรประจําตัวประชาชน 13 หลัก สัญชาติ เลขหมายโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ พร้อมเหตุผลในการเดินทาง และระบุที่พักปลายทาง
2.3 ผู้ใช้บริการจะต้องยืน หรือนั่งตามจุดที่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ กําหนดไว้อย่างเคร่งครัด
2.4 เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จะดําเนินการคัดกรองการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟ
ทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง
2.5 ในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจําตัว และกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา ควรงดการเดินทาง เว้นแต่บุคคลกลุ่มดังกล่าวมีความจําเป็นตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563
กรณีเมื่อรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด–19 ประกาศห้ามการเดินทางของประชาชน การรถไฟฯ จะงดให้บริการขบวนรถโดยสารทุกขบวนทั้งหมดในทันที
นายวรวุฒิกล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้โดยสารที่ซื้อตัวสํารองที่นั่งแล้วไม่ประสงค์เดินทาง สามารถนำตั๋วโดยสารมาขอคืนเงินได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง