รู้จัก “โป๊ปเลโอ ที่ 14” พระสันตะปาปาองค์ใหม่คนแรกจากจากสหรัฐอเมริกา

ประวัติ “โป๊ปเลโอ ที่ 14” พระสันตะปาปาองค์ใหม่จากอเมริกาเหนือ
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในเดือนเมษายน 2025 ที่ประชุมสันตะปาปาได้เลือก พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เพรโวสต์ ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2025 พร้อมประกาศพระนามว่า “โป๊ปเลโอ ที่ 14”
นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์สำคัญในศาสนจักรคาทอลิก โดย โป๊ปเลโอ ที่ 14 เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากอเมริกาเหนือ และจากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษในรอบเกือบ 900 ปี
ชีวิตและเส้นทางก่อนเป็นพระสันตะปาปา
พระสันตะปาปาองค์ใหม่ มีพระนามเดิมว่า โรเบิร์ต ฟรานซิส เพรโวสต์ ประสูติเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1955 ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอย สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวเชื้อสายอิตาลี ฝรั่งเศส และสเปน ทรงเรียนจบคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิลลาโนวา และศึกษาต่อด้านเทววิทยาที่ Catholic Theological Union ก่อนเข้าคณะนักบวชออกัสติน
พระองค์เริ่มภารกิจในศาสนจักรที่เมืองชิคาโก และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง เช่น อธิการใหญ่คณะฤๅษีแห่งนักบุญออกัสติน (2001–2013) และมุขนายกแห่งชิคลาโย ประเทศเปรู (2015–2023) โดยได้รับสัญชาติเปรูในปีแรกที่ดำรงตำแหน่ง
เส้นทางสู่ตำแหน่งพระสันตะปาปา
ในปี 2023 พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแต่งตั้งเพรโวสต์ให้เป็นพระคาร์ดินัล และมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งประธานสมณกระทรวงเพื่อมุขนายก (Dicastery for Bishops) ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญด้านการบริหารจัดการบิชอปทั่วโลก พร้อมเป็นประธานคณะกรรมาธิการพระสันตะปาปาสำหรับละตินอเมริกา ส่งผลให้ชื่อของเขาถูกจับตามองในฐานะ “ปาปาบีเล” (papabile) หรือผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นโป๊ป
สร้างสถิติใหม่ในศาสนจักรคาทอลิก
“โป๊ปเลโอ ที่ 14” นับเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในหลายด้าน ดังนี้
- พระสันตะปาปาองค์แรกจากอเมริกาเหนือ
- พระองค์แรกจากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ นับตั้งแต่โป๊ปเอเดรียนที่ 4
- พระสันตะปาปาองค์แรกที่ถือสองสัญชาติ (อเมริกัน-เปรู)
- พระองค์แรกจากคณะออกัสตินเนียน และพระองค์ที่ 7 ที่ปฏิบัติตามวินัยของนักบุญออกัสติน
- พระสันตะปาปาองค์แรกที่มีเชื้อสายแอฟริกันผิวดำ นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 5
- พระองค์แรกที่ใช้พระนามว่า “ลีโอ” ต่อจากสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13 ในปี 1903
ความหมายของยุคใหม่ในวาติกัน
การขึ้นครองตำแหน่งของ พระสันตะปาปาองค์ใหม่ จากโลกตะวันตก อเมริกาใต้ และแอฟริกาในคนเดียวกัน สะท้อนถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมในศตวรรษที่ 21 และอาจเป็นสัญญาณของการปฏิรูปและเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นของพระศาสนจักรในยุคใหม่