โป๊ปเลโอที่ 14 หวังเกิดสันติภาพ “ไทย-กัมพูชา” สวดภาวนาถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์

สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 สวดภาวนาให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมหวังให้เกิดสันติภาพ โดยโป๊ปเลโอที่ 14 กล่าวว่า พระองค์ขอภาวนาไปถึงประชาชนที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะเด็ก ๆ และครอบครัวที่ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น ขอให้พระเจ้าผู้เป็นองค์สันติ (พระเยซูคริสต์) ทรงดลใจให้ทุกคนแสวงหาการเจรจาและการคืนดีโดยเร็ว ซึ่งการสวดภาวนาดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างพิธีสวดภาวนาแองเจลุส (Angelus) ที่นครรัฐวาติกันเมื่อวานนี้ (27 กรกฎาคม) ตามเวลาท้องถิ่น

สำหรับสถานการณ์อื่น ๆ ด้านสถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีน รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บในกัมพูชามากกว่า 10 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงทหารหลายนาย ที่บาดเจ็บจากการยิงปะทะบริเวณพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของจังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งไม่ไกลจากพรมแดนติดกับไทย พร้อมกับรายงานว่ายังคงได้ยินเสียงปืนใหญ่และการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่มีการปะทะดุเดือดบริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชาราว 20-30 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ลงพื้นที่สอบถามความเห็นของชาวบ้านจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับผลกระทบจากการยิงโจมตีของทหารกัมพูชาลึกเข้ามายังดินแดนไทย สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนชาวบ้านหลายหลังคาเรือน ชาวบ้านวัย 60 ปีคนหนึ่งบอกว่า ต้องออกจากบ้านมาอาศัยหลบในบังเกอร์ของเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาหลายวันแล้ว และว่าเชื่อใจกัมพูชาไม่ได้ว่าจะยอมหยุดยิงก่อน ต้องระวังตัวไว้ก่อน แต่หากเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นเรื่องดี เพราะชาวบ้านจะได้กลับไปทำไร่ทำนา ดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติอีกครั้ง

รอยเตอร์รายงานด้วยว่า นอกจากบ้านเรือนชาวบ้านแล้ว ยังมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 3 แห่งในศรีสะเกษ ได้รับเสียหายจากการยิงโจมตีของกัมพูชาด้วย แต่ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่อพยพออกไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

ในส่วนของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นแนะนำให้พลเมืองญี่ปุ่นงดการเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังคงเกิดการปะทะทางทหารอยู่ในขณะนี้ โดยได้ยกระดับคำแนะนำด้านการเดินทางเป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดเป็นอันดับสอง จากระดับคำแนะนำที่มีตั้งแต่ 1 ถึง 4 โดยระดับ 3 แนะนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการเดินทางทั้งหมด คำแนะนำดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ภายในรัศมี 50 กิโลเมตรจากชายแดนฝั่งไทย และภายในรัศมี 30 กิโลเมตรจากชายแดนฝั่งกัมพูชา เจ้าหน้าที่กระทรวงระบุว่ามีพลเมืองญี่ปุ่นประมาณ 450 คนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และจนถึงขณะนี้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต