จะนะ : ลูกสาวชาวเล ผู้ไม่อยากเห็นถิ่นเกิดต้องกลายเป็นแดนอุตสาหกรรม
เกือบ 50 ชั่วโมง คือเวลาที่ ไครียะห์ ระหมันยะ หรือยะห์ เด็กสาวมุสลิมวัย 17 ปี จากหาดสวนกง หมู่บ้านริมทะเลเล็ก ๆ ใน อ.จะนะ จ.สงขลา นั่งรอคอยคำตอบอยู่ที่หน้าบันไดศาลากลางจังหวัดสงขลา คำถามของเธอที่ส่งถึงผู้ใหญ่ที่เป็นผู้นำประเทศคือว่าอนาคตของดินแดนบ้านเกิดที่รัฐมีแผนเดินหน้าเปลี่ยนให้เป็นเขตอุตสาหกรรมนั้น อยู่ที่ไหน
"บ้านที่หนูอาศัยอยู่ เสื้อผ้าที่หนูใส่ รองเท้า ชุดนักเรียน ค่าเทอม รถจักรยานที่หนูเคยขี่ ของเล่นที่ หนูเคยมี ชีวิตทั้งชีวิต ความสุข ความทรงจำ ทุกเรื่องราวของหนู มาจากทะเลทั้งหมด" บางส่วนของ "จดหมายน้อย ถึงปู่ประยุทธ์" ที่ไครียะห์ เขียนบนเฟซบุ๊กในวันที่เดินทางเข้ายื่นจดหมายเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา
- ข่มขืนนักเรียน : กำจัดระบบอุปถัมภ์-อำนาจนิยม ทางแก้ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน
- ไวรัสโคโรนา : เมื่อการเรียนการสอนต้องดำเนินต่อไป ห้องเรียนออนไลน์คือคำตอบ ?
ในคืนวันเดียวกัน เธอและแม่สวมชุดคลุมละหมาด ขดตัวอยู่บนผ้าปูละหมาดที่พกติดตัวยามเดินทาง ทั้งสองนอนอยู่ในมุ้งหลังหนึ่งที่มีคนนำมาให้เมื่อรู้ว่าเธอตัดสินใจรอฟังคำตอบอยู่ที่นั่น คืนนั้นเป็นค่ำคืนในเดือนรอมฎอน และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังบังคับใช้อยู่
"แม่ไปยื่นหนังสือด้วย แต่ไม่คิดว่าหนูจะไปนั่งตรงนั้น หนูไม่กลับ แม่ก็เลยบอกว่าถ้าหนูไม่กลับ แม่ก็ไม่กลับ เพราะเป็นห่วงหนู"
ไครียะห์และชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เดินทางจากบ้านใน อ.จะนะ ไปที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือขอให้ยกเลิกการจัดเวทีฟังความคิดเห็นโครงเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจที่จะเปลี่ยนพื้นที่ 16,753 ไร่ใน 3 ตำบล ได้แก่ ต.นาทับ สะกอม และตลิ่งชัน ให้เป็นเขตอุตสาหกรรม เวทีนี้มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14-20 พ.ค.
เธอบอกกับบีบีซีไทยว่า ชาวบ้านไม่เคยรับรู้เรื่องโครงการนี้มาก่อน
"ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดให้ข้อมูล หรือว่าถามว่าชาวบ้านต้องการหรือเปล่า อยู่ดี ๆ มีมติ ครม. ออกมา แต่ว่าชาวบ้านไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับนิคมอุตสาหกรรมนี้เลย"
ไครียะห์ เป็นเด็กสาวมุสลิมจากหมู่บ้านสวนกง ต.นาทับ อ.จะนะ เธอเล่าว่าชาวบ้านที่หมู่บ้านของเธอกว่า 100 หลังคาเรือน เกือบทั้งหมดประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน
- โควิด-19 : ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 คนเป็นผู้ต้องกักที่ ตม.สะเดาและชาวยะลาที่สัมผัสผู้ที่กลับจากมาเลเซีย
- ไฟใต้ : นักวิชาการชี้ บีอาร์เอ็น-รัฐไทย ทำสงครามจิตวิทยาในเดือนรอมฎอน ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19
"บ้านของหนูเองอยู่ติดริมทะเลเลย พ่อทำอาชีพประมง ออกทะเล ส่วนแม่ทำอาชีพค้าขาย"
เด็กสาวที่ออกมานั่งประท้วงหน้าศาลากลางคนนี้ กำลังจะขึ้นชั้น ม.6 แต่เธอเริ่มต้นทำกิจกรรมด้านอนุรักษ์และวัฒนธรรมในชุมชนกับกลุ่มเด็กและเยาวชน มาตั้งแต่อายุ 13 ปี การเติบโตมาอย่างใกล้ชิดและรู้จักถิ่นเกิดของตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยะห์ต้องการปกป้องท้องทะเลแห่งนี้
ท้องทะเลจะนะ คือแหล่งทรัพยากรที่ชาวบ้านพึ่งพิงใช้ในการประกอบอาชีพประมงและสร้างรายได้ให้กับพวกเขา อ.จะนะ นับเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่ง ยะห์บอกว่า จากการสำรวจแพปลาน้อยใหญ่ที่บ้านเกิด อาหารทะเลจากทะเลจะนะ พบว่ามีการส่งขายไปยัง 5 ประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ยิ่งค้นคว้าเกี่ยวกับพื้นที่ที่เคยถูกเปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมแห่งอื่นในประเทศไทยยิ่งทำให้เธอกังวล และไม่อยากเห็นบ้านเกิดเป็นเช่นนั้น เพราะไม่มีอะไรที่จะรับประกันได้ว่าคนในพื้นที่จะมีงานทำจริงหรือได้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมจะเกิดขึ้นในอนาคต
"หนูเห็นชะตากรรมตัวเอง มันน่าจะเหมือนกับที่มาบตาพุด" เธอกล่าว "หนูอยากปกป้องทะเลที่บ้าน อยากให้อยู่กับเราได้นานที่สุด"
ภายหลังยะห์และแม่ รอคำตอบอยู่เกือบ 50 ชั่วโมงที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ทางจังหวัดก็ส่งหนังสือแจ้งเลื่อนการแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาในเวทีฟังความคิดเห็นจาก ศอบต. ออกไปโดยยังไม่ระบุวันเวลาและสถานที่ที่จะจัดรอบใหม่
"ต้องยกเลิกและต้องมาเริ่มกันใหม่ว่าสมควรหรือไม่ที่จะเปลี่ยนจากแหล่งผลิตอาหาร มาเป็นฐานนิคมอุตสาหกรรม อ.จะนะ นอกจากจะมีทะเลแล้ว ยังมีทั้งควน ป่า นา เล มีครบหมดทุกอย่าง เป็นที่ ๆ มีความอุมดสมบูณ์มากที่สุดแล้ว ที่แบบนี้ไม่ควรนำไปเป็นฐานนิคมอุตสาหกรรม"
เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 4 อำเภอ
ก่อนหน้านี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) ส่งหนังสือเชิญชวนประชาชนเข้าแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการขับคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ.จะนะ ระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค.
ที่มาที่ไปของโครงการนี้ อ้างจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2563 เห็นชอบประกาศของ ศอบต. ที่กำหนดให้ อ.จะนะ ในฐานะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ พร้อมเห็นชอบแผนการลงทุนของภาคเอกชนในพื้นที่
มติ ครม. ครั้งนั้นซึ่งเป็นการประชุมนอกสถานที่ที่ จ.นราธิวาส ระบุว่า ใช้เงินลงทุนในโครงการ 18,680 ล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 100,000 อัตรา
การประกาศดังกล่าวเป็นความคืบหน้าสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2562 ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบยกระดับให้ อ.จะนะ และอีก 3 อำเภอ ใน จ.สงขลา ได้แก่ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย เป็นเมืองต้นแบบที่ 4 คือ เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมที่จะเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคอื่นของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
ในเอกสารแนบท้ายของหนังสือรับฟังความเห็น ยังระบุเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินหรือผังเมืองใหม่ ที่จะมีการเปลี่ยนพื้นที่ผังเมืองสีเขียว ที่ดินเพื่อการใช้ประโยชน์ทางเกษตรกรรม ประมงและการพาณิชย์ ให้เป็นผังเมืองสีม่วง ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมแห่งอนาคต