รีเซต

แนะนำมือถือเปิดตัวใหม่น่าใช้ประจำเดือน ตุลาคม 2568

แนะนำมือถือเปิดตัวใหม่น่าใช้ประจำเดือน ตุลาคม 2568
EntertainmentReport1
7 ตุลาคม 2568 ( 17:32 )
3

ปี 2568 เดินทางมาถึงเดือนตุลาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าเข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ สมาร์ตโฟนมากมายหลายรุ่นต่างถูกเปิดตัวออกมามากมายหลายรุ่น และแทบจะครบทุกช่วงราคาตั้งแต่เรือธงไปจนถึงรุ่นราคาประหยัดสบายกระเป๋าครับ มาดูกันครับว่ามือถือเปิดตัวใหม่ประจำเดือนตุลาคม 2025 จะมีรุ่นไหนน่าสนใจกันบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

 

 

iPhone 17 Series

ในที่สุด Apple ก็ได้เปิดตัว iPhone 17 Series ซึ่งประกอบไปด้วย iPhone 17 Pro Max, 17 Pro และรุ่นน้องเล็ก iPhone 17 ซึ่งเป็นเรือธงสาย iOS ที่หลายคนรอคอย โดยแต่ละรุ่นมีจุดที่น่าสนใจดังนี้

  • iPhone 17 Pro และ 17 Pro Max 

 

 

iPhone 17 Pro และ 17 Pro Max คือที่สุดของสมาร์ทโฟนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้ใช้งานระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ด้วยการออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพและนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด จุดเด่น อยู่ที่การใช้ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด A19 Pro ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม 6-core GPU และ Neural Accelerators ขั้นสูง ที่มอบพลังประมวลผลสูงสุดสำหรับการใช้งานหนักและเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ Ray Tracing โดยรุ่น Pro มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้ว ขณะที่รุ่น Pro Max มีจอใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว ทั้งคู่ติดตั้งพอร์ต USB-C ที่รองรับมาตรฐาน USB 3 ซึ่งทำให้การถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็วกว่าเดิมถึง 20 เท่า เหมาะอย่างยิ่งกับเวิร์คโฟลว์ของผู้สร้างคอนเทนต์ การออกแบบตัวเครื่องอะลูมิเนียม Unibody ที่เพรียวบางยังช่วยเสริมให้การใช้งานแบตเตอรี่เหนือชั้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดย ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 43,900 บาท

 

 

จุดขายที่แท้จริงของ iPhone 17 Pro Series คือความสามารถด้านภาพยนตร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ปฏิวัติวงการ กล้องหลังติดตั้งระบบ 48MP Pro Fusion Camera System เต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงเลนส์ Telephoto ที่สามารถซูมแบบออปติคัลได้ถึง 8 เท่า พร้อมฟีเจอร์วิดีโอระดับสตูดิโออย่างการบันทึก ProRes RAW, Apple Log 2 และ Dolby Vision 4K ที่ 120 fps นอกจากนี้ ระบบยังถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับ Apple Intelligence โดยเฉพาะ ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพด้วย AI หรือการแปลภาษาแบบสด (Live Translation) ด้วยความล้ำหน้าด้านกล้อง ประสิทธิภาพการประมวลผล และการเชื่อมต่อความเร็วสูง ทำให้ iPhone 17 Pro และ Pro Max เป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับนักธุรกิจ ผู้สร้างภาพยนตร์ และทุกคนที่ต้องการเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดจาก Apple

  • iPhone 17

 

 

 

iPhone 17 ถูกเปิดตัวในฐานะสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มอบประสบการณ์และคุณสมบัติระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น จุดเด่นที่ชัดเจนคือการยกระดับครั้งใหญ่ด้านจอภาพ ด้วยจอ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้วที่มาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 3,000 นิต ซึ่งเดิมมีเฉพาะในรุ่น Pro เท่านั้น ผสานกับดีไซน์ที่ทนทานยิ่งขึ้นด้วยกระจกหน้า Ceramic Shield 2 และยังคงเอกลักษณ์ด้วย Dynamic Island ที่ทำงานอย่างชาญฉลาด หัวใจหลักของเครื่องคือชิปเซ็ต A19 ใหม่ล่าสุด ที่มอบประสิทธิภาพ CPU ที่เร็วขึ้นสูงสุด 50% และ GPU ที่เร็วขึ้นสูงสุด 2.1 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้ iPhone 17 ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อสำหรับการเล่นเกม การใช้งานแอปพลิเคชันที่หนักหน่วง และการประมวลผล AI ต่างๆ โดย ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 29,900 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น 256GB ที่ให้ความจุเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

 

 

ส่วนสำคัญที่ทำให้ iPhone 17 เป็นจุดขาย คือการผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้ำหน้า เริ่มจากระบบกล้องถ่ายภาพ 48MP Dual Fusion ที่ให้ภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ พร้อมความสามารถด้านเทเลโฟโต้ 2 เท่าคุณภาพระดับออปติคัล และกล้องหน้า Center Stage 18MP ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการปรับเฟรมภาพอย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ iPhone 17 ยังทำงานบน iOS 26 ซึ่งรองรับ Apple Intelligence อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันด้วยฟีเจอร์อย่าง Visual Intelligence และ Live Translation ด้านพลังงานมาพร้อมแบตเตอรี่ที่อึดทน ใช้งานได้ตลอดวัน (เล่นวิดีโอนานขึ้นสูงสุด 11 ชั่วโมง) ทำให้ iPhone 17 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีความเสถียร ประสิทธิภาพสูง กล้องสวย และเทคโนโลยีล่าสุดครบครัน โดยไม่ต้องจ่ายในราคาของรุ่น Pro

Xiaomi 15T Series

Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนสเปคคุ้มค่าระดับกลาง แต่ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเกินราคาอย่าง Xiaomi 15T Series ที่ประกอบด้วย 2 รุ่น คือ Xiaomi 15T Pro และ Xiaomi 15T โดยมีจุดที่น่าสนใจดังนี้

  • Xiaomi 15T Pro

 

 

Xiaomi 15T Pro คือสมาร์ทโฟนเรือธงที่เน้นการมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมรอบด้าน โดยมี กล้องถ่ายภาพ เป็น จุดขาย ที่โดดเด่นที่สุด ด้วยระบบกล้องสามตัวที่พัฒนาร่วมกับ Leica ที่ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP ที่ใช้เซนเซอร์ Light Fusion 900 และเลนส์ Telephoto ระดับมือโปร 5x เซนเซอร์ 50MP ที่สามารถซูมได้สูงสุดถึง 100 เท่า พร้อมเลนส์ออปติคอล Summilux อันเลื่องชื่อของ Leica ทำให้ภาพถ่ายคมชัด เก็บรายละเอียดได้ครบทุกช่วงระยะโฟกัส ด้าน ฟีเจอร์เด่น ด้านประสิทธิภาพถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตระดับเรือธง MediaTek Dimensity 9400+ กระบวนการผลิต 3nm ที่ให้การตอบสนองที่ลื่นไหลแม้ในการประมวลผลแอปพลิเคชันที่หนักหน่วงและการเล่นเกมกราฟิกสูง ผสานกับ RAM LPDDR5X และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.1 ทำให้เครื่องทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง โดยรุ่นความจุเริ่มต้นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยคือ 12GB + 512GB มีราคาเปิดตัวที่ 21,990 บาท

 

 

อีกหนึ่ง จุดเด่น ที่สำคัญคือประสบการณ์การรับชมที่เหนือระดับจากหน้าจอถนอมสายตาขนาดใหญ่พิเศษ 6.83 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ที่มาพร้อม อัตรารีเฟรช 144Hz ขอบจอบางเฉียบ และขีดความสามารถในการป้องกันดวงตาหลายมิติ รวมถึงเทคโนโลยี Flicker-Free ที่ช่วยให้การใช้งานเป็นธรรมชาติและสบายตาตลอดวัน นอกจากนี้ Xiaomi 15T Pro ยังมาพร้อมการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล T-Series ที่มอบความอึดที่ใช้งานได้ยาวนานในดีไซน์ที่ยังคงความเพรียวบาง โดยใช้ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge T1S Tuner ที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, GPS และสัญญาณมือถือ ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหาเรือธงที่โดดเด่นทั้งด้านกล้องถ่ายภาพ, ประสิทธิภาพระดับสูงสุด และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

  • Xiaomi 15T

 

 

Xiaomi 15T ถูกนำเสนอในฐานะสมาร์ทโฟนที่มอบประสิทธิภาพระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายอย่างยิ่ง โดยมี จุดเด่น คือการผสานพลังประมวลผลอันทรงพลังเข้ากับเทคโนโลยีกล้องระดับโลกของ Leica หัวใจหลักของเครื่องคือชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8400 Ultra ที่ถูกปรับแต่งมาเป็นพิเศษ (Customized) เพื่อมอบการทำงานที่รวดเร็วและเสถียรสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเล่นเกมหนักๆ พร้อมหน่วยความจำ RAM LPDDR5X และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 ซึ่งรับประกันความลื่นไหลในทุกสถานการณ์ อีกหนึ่ง ฟีเจอร์เด่น คือหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว ที่รองรับ อัตรารีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 3,200 nits ทำให้การแสดงผลคมชัดและสู้แสงได้ดีเยี่ยม ตอบโจทย์การเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าในทุกมิติ โดยมีราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยสำหรับรุ่นความจุ 12GB + 256GB คือ 15,990 บาท

 

 

จุดขาย หลักของ Xiaomi 15T คือประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่ได้รับการยกระดับด้วยความร่วมมือกับ Leica ซึ่งประกอบด้วยระบบกล้องสามตัว: กล้องหลัก 50MP ที่ใช้เซนเซอร์ Light Fusion 800, กล้อง Telephoto 50MP ที่รองรับการซูมแบบออปติคัล 2 เท่า และกล้อง Ultra-wide 12MP นอกจากนี้ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์พิเศษอย่าง โหมดถ่ายภาพสตรีท Leica ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บภาพช่วงเวลาสั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ พร้อมมอบสไตล์และระยะโฟกัสแบบคลาสสิกของ Leica ขณะที่ด้านแบตเตอรี่ติดตั้งขนาด 5,500 mAh ซึ่งมอบความอึดที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน และทำงานบนระบบปฏิบัติการ HyperOS 2 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ในอีโคซิสเต็มของ Xiaomi ทำให้ 15T เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องสำหรับผู้ที่ต้องการกล้องสวย ประสิทธิภาพแรง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ไว้ใจได้

realme 15 Series 5G

สำหรับใครที่มองหาสมาร์ตโฟนระดับกลาง เน้นถ่ายรูปสวยในงบนี้ realme 15 Series 5G ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจครับ โดยซีรีส์นี้มีทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้

  • realme 15 Pro

 

 

realme 15 Pro 5G ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่มอบประสบการณ์ที่ทรงพลังและยั่งยืน โดยมี จุดขาย หลักคือการผสานประสิทธิภาพระดับสูงเข้ากับแบตเตอรี่ที่ใหญ่พิเศษ รุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 ที่ใช้สถาปัตยกรรม 4nm มอบขุมพลังที่เหนือกว่าสำหรับการเล่นเกมและการทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างลื่นไหลไร้รอยต่อ และยังโดดเด่นด้วย ฟีเจอร์เด่น ด้านพลังงานด้วยแบตเตอรี่ความจุ massive 7000mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ที่ทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันและชาร์จกลับได้อย่างรวดเร็ว 

ขณะที่จอแสดงผลเป็นแบบ 144Hz HyperGlow 4D Curve+ ขนาด 6.8 นิ้ว ที่มีความสว่างสูงสุดถึง 6500 nit ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้กลางแจ้ง กล้องหลังหลักติดตั้งเซนเซอร์ Sony IMX896 50MP พร้อม OIS และกล้องหน้า 50MP ที่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60fps ได้ทุกเลนส์ รวมถึงฟีเจอร์ AI Party Mode ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในงานปาร์ตี้คมชัดและสว่างสะดุดตา โดย ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 14,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 12GB + 256GB ทำให้ realme 15 Pro 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความครบเครื่องทั้งสเปค, กล้อง และแบตเตอรี่ที่อึดทนเป็นพิเศษในราคาที่คุ้มค่า

  • realme 15

 

 

realme 15 5G ถูกวางตำแหน่งเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มอบความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยการเน้น จุดเด่น ด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นพิเศษ หัวใจหลักของเครื่องคือชิปเซ็ต Dimensity 7300+ 5G ขนาด 4nm ที่มอบพลังการประมวลผลที่เร็วและเสถียรสำหรับการเล่นเกมและการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง ฟีเจอร์เด่น ที่สำคัญที่สุดคือแบตเตอรี่ 7000mAh ที่ใหญ่พิเศษ (massive battery) ซึ่งทำงานร่วมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วันต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว 

ตัวเครื่องยังคงดีไซน์ที่บางเฉียบเพียง 7.66 มม. พร้อมหน้าจอ AMOLED 144Hz ขนาด 6.77 นิ้ว ที่ให้ภาพลื่นไหลและมีสีสันสดใส และไม่น้อยหน้าด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องหลัก 50MP พร้อมเซนเซอร์ Sony IMX882 และ OIS รวมถึงกล้องหน้า 50MP ที่รองรับฟีเจอร์ AI ครบเครื่อง เช่น AI Party Mode สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างคมชัด จึงทำให้ realme 15 5G เป็น จุดขาย สำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทรงพลัง แบตอึด และมีฟีเจอร์ AI ครบครันในราคาสุดคุ้ม โดยมี ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 12,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 12GB + 256GB

  • realme 15T

 

 

realme 15T 5G ถูกนำเสนอในฐานะน้องเล็กสุดของซีรีส์ที่ยังคงรักษามาตรฐานระดับสูงในราคาที่เข้าถึงได้ โดยมี จุดเด่น ที่เน้นความทนทานของแบตเตอรี่และมาตรฐานการกันน้ำ/กันฝุ่นระดับสูง หัวใจสำคัญคือ ฟีเจอร์เด่น ที่ไม่เป็นรองใคร ได้แก่ แบตเตอรี่ความจุใหญ่พิเศษ 7000mAh ที่ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 60W Fast Charging แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ realme 15T ยังมาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED 4000nit ขนาด 6.57 นิ้ว ที่มีอัตรารีเฟรช 120Hz เพื่อการแสดงผลที่สว่างสดใสและลื่นไหล และใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6400 Max 5G สำหรับการใช้งานที่รวดเร็วทันใจ 

นอกจากนี้ยังชู จุดขาย ด้านการถ่ายภาพด้วยกล้อง AI ความละเอียด 50MP ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยมาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่นสูงสุดถึง IP66/IP68/IP69 ซึ่งมอบความมั่นใจในการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม โดยมี ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 9,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 8GB + 256GB ทำให้ realme 15T เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่อึดทน ฟีเจอร์ครบ และมีราคาประหยัดครับ

OPPO A6 Pro 5G

 

 

OPPO A6 Pro 5G ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทนทาน แบตเตอรี่อึด และมีประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้เป็นอันดับแรก จุดเด่น ที่สำคัญที่สุดของรุ่นนี้คือความทนทานในทุกสภาวะ ด้วยการรับรองมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นในระดับสูงสุดถึง IP69, IP68 และ IP66 รวมถึงมาตรฐานความทนทานทางทหาร MIL-STD-810H ฟีเจอร์เด่น ที่ถูกเน้นย้ำคือพลังงานที่ยาวนานจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,500mAh (หรือ 7,000mAh ในบางข้อมูล) พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC™ Flash Charge ที่ชาร์จเต็มได้อย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอ AMOLED 120Hz Ultra Bright Display ขนาด 6.57 นิ้ว ที่ให้ภาพสว่างคมชัดแม้กลางแจ้ง และชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 5G (ในไทย) ที่มอบประสิทธิภาพที่เสถียรสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเล่นเกมผ่านระบบระบายความร้อน SuperCool VC System กล้องหลักความละเอียด 50MP พร้อม AI สำหรับการแก้ไขภาพที่ชาญฉลาดเป็นอีกหนึ่ง จุดขาย สำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ทนทานเป็นพิเศษและมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยมี ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 9,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 8GB + 256GB

Redmi 15C

 

 

Redmi 15C ถูกเปิดตัวมาเพื่อเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เน้นความคุ้มค่าและความอึดในการใช้งานเป็นหลัก โดยมี จุดเด่น ที่สำคัญที่สุดคือแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 33W Fast Charging ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดกลางคัน ฟีเจอร์เด่น ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 6.9 นิ้ว ความละเอียด HD+ พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz AdaptiveSync ซึ่งให้ประสบการณ์การรับชมที่ลื่นไหลและคมชัดกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน 

ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G81-Ultra ที่มอบประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่นสำหรับการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมเบา ๆ รวมถึงมาพร้อมกล้องหลัก 50MP AI Camera และการทำงานบนระบบปฏิบัติการใหม่ Xiaomi HyperOS 2 ที่เพิ่มความลื่นไหลและฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจ จุดขาย หลักของ Redmi 15C จึงอยู่ที่การรวมกันของจอขนาดใหญ่ แบตเตอรี่ที่อึดทน และสเปคที่เกินราคา โดยมี ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 3,499 บาท สำหรับรุ่นความจุ 6GB + 128GB

 

POCO C85

 

 

POCO C85 เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ชูโรงด้วยสเปคที่เกินคุ้มในราคาประหยัดอย่างชัดเจน จุดเด่น ที่สำคัญที่สุดคือการมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.9 นิ้ว ที่รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz AdaptiveSync ทำให้การแสดงผลภาพมีความลื่นไหลเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ขณะที่ ฟีเจอร์เด่น ยังเน้นไปที่ความอึดของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 33W พร้อมด้วยประสิทธิภาพจากชิปเซ็ต MediaTek Helio G81-Ultra ซึ่งทำให้การใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมเบาๆ เป็นไปอย่างราบรื่น 

นอกจากนี้ยังมีกล้องหลัก 50MP AI Camera และทำงานบนระบบปฏิบัติการใหม่ Xiaomi HyperOS 2 จุดขาย ของ POCO C85 คือการมอบประสบการณ์ "จอใหญ่ 120Hz แบตอึด" ที่ครบเครื่องในราคาเข้าถึงง่าย โดยมี ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 3,299 บาท สำหรับรุ่นความจุ 6GB + 128GB (ซึ่งมีราคาโปรโมชั่นช่วงเปิดตัวที่ ฿3,099)

 

nubia Focus 2 5G

 

 

nubia Focus 2 5G ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เน้นความสามารถด้านการถ่ายภาพในราคาย่อมเยา จุดเด่น ที่เป็นหัวใจหลักและเป็น จุดขาย ชูโรงของรุ่นนี้คือชุดกล้องหลัง 108MP AI Camera ที่มาพร้อมระบบ Neovision AI Photography System และฟีเจอร์ AI ด้านการถ่ายภาพอันหลากหลาย เช่น 3X Lossless Zoom, AI Super Star Trail, AI Sport Snapshot และการรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ซึ่งเหนือกว่าสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน 

ฟีเจอร์เด่น อื่น ๆ ประกอบด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ ที่ให้อัตรารีเฟรชสูง 120Hz และมีความสว่างสูงสุดถึง 1000nits, ชิปเซ็ต Unisoc T8100 5G ที่รองรับเครือข่าย 5G และมี RAM สูงสุดถึง 20GB (ด้วยเทคโนโลยี Dynamic RAM) พร้อม ROM 256GB ให้หน่วยความจำที่เพียงพอสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 22.5W ทำให้ nubia Focus 2 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือกล้องคมชัด มีสเปคครบเครื่อง และรองรับ 5G ในงบประมาณจำกัด โดยมี ราคาเริ่มต้นที่เปิดตัวในประเทศไทยคือ 5,499 บาท สำหรับรุ่น 8GB+256GB

สุดท้ายหากเพื่อนๆ สนใจมือถือรุ่นใหม่รุ่นไหน สามารถไปสัมผัสเครื่องจริงและรับโปรโมชันดีๆ กันได้ที่ True Shop ทุกสาขาได้เลยครับ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง