รีเซต

เวียดนามคาดส่งออก 'กาแฟ' ร่วง เหตุพื้นที่ปลูก-สต็อกลดลง

เวียดนามคาดส่งออก 'กาแฟ' ร่วง เหตุพื้นที่ปลูก-สต็อกลดลง
Xinhua
7 มีนาคม 2566 ( 17:14 )
69
เวียดนามคาดส่งออก 'กาแฟ' ร่วง เหตุพื้นที่ปลูก-สต็อกลดลง

ฮานอย, 7 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (6 มี.ค.) สื่อท้องถิ่นเวียดนามรายงานว่าการส่งออกกาแฟของเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสต้ารายใหญ่ที่สุดของโลก มีแนวโน้มลดลงในปี 2022/23 เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกและคลังสินค้าเมล็ดกาแฟลดลง

 

โด ห่า นาม ประธานอินทิเมกซ์ กรุ๊ป (Intimex Group) และรองหัวหน้าสมาคมกาแฟและโกโก้เวียดนาม คาดการณ์ว่าเวียดนามจะเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟได้ 1.47 ล้านตัน ในปีเพาะปลูก 2022/23 ซึ่งลดลงร้อยละ 10-15 จากปีเพาะปลูกก่อนหน้า เนื่องจากผู้เพาะปลูกกาแฟหันไปปลูกผลไม้ทำกำไรอื่นๆ แทนโดเผยว่าเวียดนาม ซึ่งเป็นรองเพียงบราซิลในแง่การผลิตกาแฟทั่วโลก มีปริมาณเมล็ดกาแฟที่เก็บตุนไว้ลดลง และคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกเมล็ดกาแฟรายปีจะลดลงเช่นกันเวียดนามได้รักษาปริมาณสินค้าเมล็ดกาแฟคงคลังเพื่อป้องกันราคาตกลงเมื่อผลผลิตใหม่ออกสู่ตลาด โดยบรรดาผู้ส่งออกกาแฟสามารถซื้อเมล็ดกาแฟจำนวนหนึ่งและเก็บตุนให้พ้นจากการหมุนเวียนในตลาดเป็นระยะเวลาหนึ่งภายใต้การอนุมัติกักตุนกาแฟในประเทศของรัฐบาลสำนักงานสถิติทั่วไปของเวียดนาม ระบุว่าเวียดนามส่งออกกาแฟ 323,000 ตัน ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ลดลงร้อยละ 13.1 จากปีก่อนหน้า และทำรายได้ 703 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.42 หมื่นล้านบาท) ลดลงร้อยละ 14.6 เมื่อเทียบปีต่อปีคณะผู้เชี่ยวชาญแนะว่าเวียดนามจำเป็นต้องทำแผนผังพื้นที่เพาะปลูกใหม่ ปรับใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรกลและชลประทานที่ก้าวหน้า ตลอดจนปรับปรุงเทคนิคการคัดเลือกพันธุ์พืช เพื่อรักษาระดับผลผลิตและมูลค่าให้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้าหมายทำรายได้จากการส่งออกกาแฟ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.07 แสนล้านบาท) ภายในปี 2030 โดยเมื่อปี 2022 เวียดนามทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.34 แสนล้านบาท) จากการส่งออกกาแฟ 1.7 ล้านตันเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟราว 6 แสนเฮกตาร์ (ราว 3.75 ล้านไร่) โดยพื้นที่ปลูกกาแฟขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคที่ราบสูงตอนกลาง (Central Highlands) ครองสัดส่วนราวร้อยละ 90 ของผลผลิตทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง