"ภาษีสหรัฐฯ" จะทำ "เศรษฐกิจโลก" ซ้ำรอย "Great Depression" หรือไม่ l What's up Wealth

ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression ในปี 1930 ที่สร้างบาดแผลให้กับระบบเศรษฐกิจโลกเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 10 ปี เป็นภาวะช็อกทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด เป็นผลพวงมาจากความบอบช้ำของ "สงครามโลกครั้งที่ 1"
จากจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1914-1918 ยุโรปคือสมรภูมิที่กำลังสู้รบกันอย่างหนัก ระบบเศรษฐกิจพังย่อยยับ ภาคการผลิตทั้งสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมเสียหายจนไม่สามารถขับเคลื่อนกลไกทางเศรษฐกิจได้เลย หลายประเทศในยุโรปจึงจำเป็นที่จะต้องนำเข้าสินค้าสำคัญเข้ามาทดแทน
"สหรัฐอเมริกา" ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายสำคัญไปยังยุโรป โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในระยะเวลา 4-5 ปี การส่งออกของสหรัฐฯไปยังยุโรป ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า หลัก ๆ ก็มาจากสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 7 เท่า และสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า
แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง เศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศในยุโรปเริ่มทยอยฟื้นตัว ภาคการผลิตทั้งเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม กลับมาขับเคลื่อนกลไกทางเศรษฐกิจได้เหมือนเดิม ตัวเลขการค้าระหว่างสหรัฐฯอเมริกากับยุโรป ก็สลับขั้วเปลี่ยนข้างอย่างสิ้นเชิง
ถึงแม้ว่าภาษีสหรัฐฯกำลังจะจุดชนวนสงครามการค้าให้กับโลกในปี 2025 แต่ก็มีหลายประเด็นที่คล้ายคลึงกันกับเมื่อปี 1930 แต่หลายแง่มุมก็แตกต่างไป ทว่าผลกระทบที่จะตามมานั้นมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากกว่า เพราะภาษีทรัมป์เรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่า และเรียกเก็บจากทั่วทุกมุมโลก ในทุกสินค้า และยังพุ่งเป้าไปที่คู่แด้นอย่าง "จีน" ที่ถูกเรียกเก็บภาษีหลักร้อยเปอร์เซ็นต์
และถึงแม้ว่าสถานการณ์ในปี 2025 จะต่างกับปี 1930 ตรงที่ว่า หลาย ๆ ประเทศเลือกใช้วิธีในการเจรจามากกว่าที่จะตอบโต้ ยกเว้นจีน แต่ด้วยระบบเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่ซับซ้อนกว่าในอดีตมาก ขนาดเศรษฐกิจของจีน และสหรัฐฯ ก็ใหญ่ที่สุดในโลก การพึ่งพาทางเศรษฐกิจระหว่างกันของประเทศต่าง ๆ ในโลก พัฒนาไปไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับ ผลกระทบที่ตามมานั้นอาจจะรุนแรงไม่แพ้กัน