ตลาดหุ้นเอเชียยังกังวลปมมะกัน-จีน
รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนนี้ว่า การซื้อขายหุ้นในตลาดเอเชียส่วนใหญ่ยังคงคึกคัก แม้ดัชนีในบางตลาดจะเริ่มชะงักหลังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา เมื่อมีการปลดล็อกดาวน์และเริ่มเปิดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาณว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดมาแล้ว
ดัชนีเอ็มเอสซีไอ เอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้นถึง 0.43 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นเอเชียยังผันผวนเป็นผลจากการเทขายทำกำไรและความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งเริ่มลุกลามออกไปในหลายๆ ด้าน ล่าสุด สหรัฐอเมริกาสั่งห้ามเครื่องบินพาณิชย์จีนเดินทางเข้าประเทศ ในขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการจำกัดเที่ยวบินจากสหรัฐอเมริกามายังจีนเช่นเดียวกัน
ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ดีดตัวขึ้นสูงเกือบทำสถิติสูงสุดตลอดกาล ทั้ง นาสแดค, เอสแอนด์พี500 และ ดาวโจนส์ ในขณะที่ดัชนี แดกซ์ ของเยอรมนี ได้รับอานิสงส์จากการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 130,000 ล้านยูโร ปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับตลาดรวมของยุโรป
ในเอเชีย ดัชนีนิกเกอิ ปรับตัวสูงขึ้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ ตลาดซิดนีย์ บวกเพิ่ม 0.8 เปอร์เซ็นต์ โซล เพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ ไทเป 0.7 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยบวกรวดเดียวมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ฮ่องกง ที่สถานการณ์อึมครึมอย่างหนักจากความขัดแย้งจีน-สหรัฐอเมริกา ดัชนีหั่งเส็งยังปิดบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์ ทำสถิติปิดบวก 3 วันติดดัชนีเพิ่มขึ้นราว 6 เปอร์เซ็นต์
ราคาน้ำมันดิบเริ่มร่วงลงหลังจากปรับสูงขึ้นต่อเนื่องก่อนหน้านี้ น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (ดับเบิลยูทีไอ) ลดลง 2.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 36.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ขึ้นไปทดสอบระดับ 40 ดอลลาร์ในเช้าวันนี้ก่อนอ่อนตัวมาอยู่ที่ 39.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำสปอตขยับขึ้น 0.25 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 1,701.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ ส่งมอบ 20 สิงหาคม บวกเพิ่ม 5.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,710.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์