AOT ขอความร่วมมือ งดปล่อยโคมลอยใกล้สนามบินวันลอยกระทง
วันนี้ (23 ต.ค.63) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ขอความร่วมมือประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ในเขตโดยรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2563 เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสาร และประชาชน ช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2563 จะเป็นช่วงระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งในบางพื้นที่มักจะมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย โคมควัน เพื่อความเป็นสิริมงคล ในส่วนของ AOT ซึ่งบริหารสนามบินหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่
-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
-ท่าอากาศยานดอนเมือง
-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
-ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
-ท่าอากาศยานภูเก็ต
- และท่าอากาศยานหาดใหญ่
โดยขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่ท้องฟ้า เช่น การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง การปล่อยแสงเลเซอร์ และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน โดยเฉพาะในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ (บริเวณสนามบินและโดยรอบสนามบิน) ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 59/1 และ 59/2 และประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง การดำเนินกิจกรรมภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ พ.ศ.2563 ที่ห้ามมิให้การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน บั้งไฟ พลุ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามปล่อยแสงเลเซอร์ในบางพื้นที่ และตามประกาศ กพท. เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (ห้าไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้ผู้บังคับหรือปล่อยโดรนต้องขออนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายก่อนทุกครั้งและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ตรวจสอบรายละเอียดในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการจะปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน โดยในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับความนิยมในการปล่อยโคมลอยฯ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศ ไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอยฯ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศอย่างเด็ดขาดในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ (1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล (2) อำเภอหางดง ทุกตำบล (3) อำเภอสารภี ใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล และหนองผึ้ง (4) อำเภอแม่ริม ใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ และแม่สา และ (5) อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้กำหนดให้ปล่อยโคมลอยฯ ได้ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน 2563 ระหว่างเวลา 19.00 - 01.00 น. โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 15 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้ง ทชม. หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 7 วัน เพื่อจะได้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงวันดังกล่าวมีสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินเพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ โดยมีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิก 25 เที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน 57 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 82 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2563)
ทั้งนี้ AOT และสนามบินทั้ง 6 แห่งได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของเครื่องบินและผู้โดยสาร จึงได้รณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย เพื่อประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งยังได้ร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทงโดยการจัดซุ้มถ่ายภาพภายในอาคารผู้โดยสารอีกด้วย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE