ขุด-ขยาย‘คลองนาคราช’ แก้ท่วมซ้ำซากเมืองชุมพร

จากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่เกิดขึ้นทุกปี ในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.เมืองชุมพร คือ ต.วังใหม่ ต.บ้านนา ต.ขุนกระทิง ต.ตากแดด ต.วังไผ่ และ ต.บางหมาก ซึ่งเกิดจากน้ำที่ไหลจากเทือกเขาตะนาวศรี ผ่าน อ.กระบุรี จ.ระนอง มาลงคลองชุมพร และเข้าสู่พื้นที่ 6 ตำบลนี้ไม่สามารถไหลลงทะเลได้สะดวก เนื่องจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ อีกทั้งช่วงที่น้ำไหลผ่าน “คลองนาคราช” ซึ่งมีสภาพคลองแคบและตื้นมาก ทำให้จังหวัดชุมพรพยายามหาทางแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมาโดยตลอด นำไปสู่ “โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (ลุ่มน้ำคลองชุมพร)”

กิติ สุนทรเสถียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการชลประทานชุมพร เปิดเผยว่า ในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำในคลองชุมพรได้สูงสุดถึง 550 ลูกบาศก์เมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ 6 ตำบลดังกล่าว และน้ำยังท่วมถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นถนนสายหลักลงสู่ภาคใต้เป็นประจำ กรมชลประทานจึงน้อมนำพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องการแก้ปัญหาลุ่มน้ำท่าตะเภาขยายผลมาที่คลองชุมพร เพื่อต้องการตัดน้ำจากคลองชุมพรให้ไหลลงสู่ทะเลเร็วขึ้น เริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2558 ซึ่งระยะแรก ได้เข้าเจรจากับราษฎรที่ได้รับผลกระทบ เพื่อขอซื้อพื้นที่ ขอสนับสนุนงบประมาณขยายคลองนาคราชที่มีอยู่เดิมให้รับน้ำจากคลองชุมพรไปลงทะเลที่อ่าวทุ่งคา และกำหนดสิ้นสุดโครงการในเดือนกันยายนปี 2564

“โครงการแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ การขุดคลองใหม่ ตั้งแต่บริเวณวัดเขาปูน เลียบไปทางชุมพรเมืองใหม่ ระยะทางประมาณ 3,343 เมตร เชื่อมคลองนาคราชที่มีความยาวประมาณ 4,000 เมตร ไปลงคลองชุมพรเดิมที่ ต.ทุ่งคา ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดินประมาณ 800 ล้านบาท จ่ายไปแล้วประมาณ 500 ล้านบาท และก่อสร้างประตูระบายน้ำ (ปตร.) ในปี 2563 แล้ว 2 แห่ง คือที่ปากคลอง และปลายคลอง ปัจจุบันโครงการคืบหน้าแล้ว 40% มีกำหนดเสร็จในเดือนมีนาคม 2564 และประตูระบายน้ำอีก 2 แห่ง คือ ขยายคลองชุมพรช่วงปลาย กำหนดเสร็จเดือนกันยายนปี 2564 ขณะนี้โครงการในภาพรวมแล้วเสร็จประมาณ 60%

โครงการนี้จะช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ 6 ตำบล ช่วยลดพื้นที่น้ำท่วม 37,500 ไร่ ช่วยประชาชนได้ 16,802 ครัวเรือน อีกทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนสายเอเชีย 41 และสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร การท่องเที่ยว และการอุตสาหกรรมในฤดูแล้งได้ 6.5 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ได้ 6,875 ไร่ และป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่” ผช.ผอ.โครงการชลประทานชุมพร กล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า

สำหรับปัญหาและอุปสรรคในระยะแรก คือ การจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน ซึ่งเดิมใช้วิธีเจรจาจัดซื้อและราษฎรยินยอม แต่ต่อมามูลค่าที่ดินสูงขึ้น ทำให้ราษฎรไม่ยอมรับราคา จึงต้องออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเมื่อปี 2560 ซึ่งทั้งโครงการได้รับการผลักดันงบประมาณและการแก้ปัญหามวลชนจาก พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทำให้กระแสต่อต้านลดน้อยลง แต่หากราษฎรไม่พอใจเรื่องค่าเวนคืนที่ดิน สามารถไปยืนอุทธรณ์ได้ที่โครงการชลประทานชุมพร

“ระหว่างการดำเนินโครงการอาจมีผลกระทบต่อราษฎรในพื้นที่บ้าง ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ หรือต้องการคัดค้านส่วนใด สามารถแจ้งโครงการชลประทานชุมพรทราบได้ทันที ขณะนี้มีการออกแบบก่อสร้างอาคารระบายน้ำ เพื่อชักน้ำที่ท่วมขังพื้นที่ต่างๆ ลงสู่คลองชุมพรในปี 2564 ประมาณ 80 กว่าจุด หลังจากโครงการแล้วเสร็จ จะปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์เพื่อการอนุรักษ์ ส่งเสริมอาชีพด้านการท่องเที่ยว พร้อมมีท่าจอดเรือที่กำหนดอยู่ในแผนงานด้วย”

ด้าน “พล.ต.กลชัย” กล่าวว่า โครงการขุดคลองนาคราชเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.เมืองชุมพร โครงการนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากปี 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจการปกครอง ขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องทำหน้าที่แทนทั้ง ส.ส.และ ส.ว.โดยเล็งเห็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวชุมพรในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.เมืองชุมพร ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จึงคิดว่าจะต้องดำเนินการต่อยอดโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากนี้ให้ได้

“ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่พบ ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ปัจจุบันโครงการดังกล่าวเกือบเสร็จแล้ว ปัญหาใหญ่อยู่ที่การเวนคืนที่ดิน ซึ่งกรมชลประทานพยายามหางบประมาณมาใช้ในการเวนคืน หากราษฎรรายใดรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถไปอุทธรณ์ได้ มั่นใจว่าโครงการนี้คงเสร็จทันกำหนดในปี 2564 งบประมาณที่ขาดอีก 300 ล้าน กำลังเร่งดำเนินการ ระหว่างนี้อยากให้ประชาชนในพื้นที่อดทนอีกนิด เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ 6 ตำบลคงค่อยๆ หมดไป” พล.ต.กลชัยกล่าว

โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (ลุ่มน้ำคลองชุมพร) หรือ “โครงการขุดคลองนาคราช” ถือเป็นความหวังของชาวชุมพรในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.เมืองชุมพร ซึ่งทุกคนต่างคาดหวังว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ความเดือดร้อนของพวกเขาเรื่องน้ำท่วมซ้ำซากคงลดน้อยลงและหมดสิ้นไป