‘โบลตัน’ อ้าง ‘ทรัมป์’ ขอผู้นำจีนช่วยเอาชนะเลือกตั้งปธน.สหรัฐปีนี้

นายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ร้องขอให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐรอบใหม่ซึ่งจะมีขึ้นในปลายปีนี้
ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในหนังสือของโบลตันที่กำลังจะออกจำหน่ายในสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นเบื้องหลังใหม่ที่สั่นสะเทือนภาพลักษณ์ของทรัมป์เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศ ที่มีการขับเคลื่อนโดยมุ่งเน้นการแอบแฝงผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 โดยทำเนียบขาวได้ยื่นฟ้องเพื่อไม่ให้มีการขายหนังสือดังกล่าวแล้ว
เนื้อหาบางส่วนของหนังสือร้อนฉบับนี้ที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รวมถึงวอลสตรีทเจอร์นัลนำมาเผยแพร่ โบลตันอ้างว่า ทรัมป์ได้แสดงความพร้อมที่จะมองข้ามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน โดยที่ชัดเจนที่สุดคือทรัมป์ได้บอกกับประธานาธิบดีสีว่า การสร้างค่ายกักกันขนาดใหญ่เพื่อควบคุมชาวมุสลิมอุยกูร์เป็นสิ่งถูกต้องที่จะดำเนินการ
นอกจากนี้ในการหารือกับประธานาธิบดีสีเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ทรัมป์ยังได้พูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งยังพูดเป็นนัยว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของจีนส่งผลกระทบกับการรณรงค์หาเสียงของเขา ทั้งยังขอให้สีช่วยรับรองว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น
หนังสือของโบลตันระบุว่า ทรัมป์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเกษตรกรชาวสหรัฐ และการที่จีนสามารถช่วยซื้อถั่วเหลืองและข้าวสาลีจะส่งผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้อย่างไร
โบลตันระบุด้วยว่า เดิมทีเขาตั้งใจจะเผยแพร่ข้อความที่ทรัมป์พูดตรงๆ แต่หลังจากหน่วยงานของทางการสหรัฐได้ทำการตรวจทานเนื้อหาในหนังสือ เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยังได้พูดถึงพฤติกรรมหลายอย่างของทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแทรกแซงกรณีนี้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทขนาดใหญ่ในจีนและตุรกี เพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้นำเผด็จการที่ทรัมป์นิยมชมชอบ
“รูปแบบการกระทำดูราวกับการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมเป็นวิถีชีวิตปกติ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะรับได้”โบลตันระบุ และยังบอกด้วยว่า เขาได้รายงานข้อวิตกกังวลของเขาให้รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐรับทราบด้วย
ทั้งนี้หนังสือ “The Room Where It Happened” ของโบลตันมีกำหนดจะวางขายในวันที่ 23 มิถุนายนนี้