'บิ๊กป้อม' ลงพื้นที่น้ำท่วมโคราช ให้กำลังใจจนท. กำชับเร่งสำรวจความเสียหายช่วยชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ลงพื้นที่อำเภอโนนสูงและอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ติดตามสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยขณะนี้สถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีน้ำท่วมรวม 15 อำเภอ แต่สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว 6 อำเภอ
ซึ่งในโอกาสนี้ ได้กล่าวในนามรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความห่วงใยที่มีต่อผู้ประสบภัย และผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยขอขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชพลเรือนทุกฝ่าย รวมถึง เจ้าหน้าที่กู้ภัยและประชาชนจิตอาสา ที่ช่วยกันทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ซึ่งจะต้องสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
พลเอกประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวกำชับให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังในจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เร่งระบายน้ำท่วมขังให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อรีบฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัย รวมทั้งให้สำรวจพื้นที่ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจหลัก เขตโบราณสถานเมืองพิมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ทั้งนี้ต้องจัดการประชุมเป็นระยะ เพื่อปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ทำอย่างไรประชาชนและโบราณสถานจะได้รับผลกระทบเดือดร้อนน้อยที่สุด
โดยหลังจากพบปะเสร็จแล้วพลเอกประวิตรฯ ได้ลงพื้นที่วัดบ้านขาม หมู่ที่ 4 ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกับมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย รวมถึง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือควบคู่ไปพร้อมกันหลังน้ำลดระดับลงแล้ว โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ,นายอำนวย ปองนาน นายอำเภอพิมาย หัวหน้าส่วนราชการ และชาวบ้าน กว่า 300 คน รอให้การต้อนรับ ซึ่งปัจจุบัน น้ำจากลำน้ำมูลได้ล้นตลิ่งเอ่อท่วมพื้นที่ อ.พิมาย เกิดสถานการณ์อุทกภัยโดย และมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรวม 8 ตำบล ได้แก่ ตำบลสัมฤทธิ์ ธารละหลอด ในเมือง กระเบื้องใหญ่ ท่าหลวง ดงใหญ่ หนองระเวียง และตำบลโบสถ์ รวม จำนวน 57 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 1,668 หลัง วัด 1 แห่ง และพื้นที่การเกษตรเสียหายเบื้องต้น 5,637 ไร่