สหรัฐฯ คว่ำบาตร-ไล่ทูต 'รัสเซีย' ปมแทรกแซงเลือกตั้ง-โจมตีทางไซเบอร์
วอชิงตัน, 16 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งบริหารบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียพร้อมขับไล่นักการทูตออกนอกประเทศ 10 คน ด้วยข้อกล่าวหาแทรกแซงการเลือกตั้งและกิจกรรมทางไซเบอร์
กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ออกคำสั่งเพิ่มเติมภายใต้คำสั่งข้างต้น ห้ามสถาบันการเงินสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในตลาดหลักเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารหนี้สกุลเงินรูเบิลและสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งออกโดยธนาคารกลาง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ หรือกระทรวงการคลังของรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2021 เป็นต้นไป
กระทรวงฯ ยังบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร 6 บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติรัสเซีย ซึ่งให้การสนับสนุนโครงการไซเบอร์ของสำนักข่าวกรองรัสเซีย รวมถึงอีก 32 หน่วยงานและบุคลากร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020
นอกจากนั้นกระทรวงฯ ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา ขึ้นบัญชีดำ 8 หน่วยงานและบุคลากรเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งในไครเมียด้วย
แถลงการณ์ระบุว่าสหรัฐฯ ขับไล่นักการทูตจากคณะทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จำนวน 10 คน รวมถึงตัวแทนสำนักข่าวกรองรัสเซีย และประณามสำนักข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียว่ากระทำการล้วงข้อมูลความลับผ่านบริษัท โซลาร์วินด์ส (SolarWinds) ในปีก่อน
มาตรการเหล่านี้ถูกบังคับใช้ไม่กี่วันหลังจากไบเดนเตือนวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ เพื่อตอบโต้การกระทำของรัสเซีย อาทิ การโจมตีทางไซเบอร์และการแทรกแซงการเลือกตั้ง
ด้านรัสเซียระบุว่าข้อกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 นั้นไร้หลักฐาน ระบุว่าเป็นข้ออ้างของสหรัฐฯ เพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียตึงเครียดเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ซีเรีย และประเด็นทางไซเบอร์ รวมถึงต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าได้แทรกแซงการเมืองภายในประเทศของอีกฝ่าย