รีเซต

BGRIM จ่ายไฟ140เมก ดันกระแสเงินสด

BGRIM จ่ายไฟ140เมก ดันกระแสเงินสด
ทันหุ้น
4 ตุลาคม 2566 ( 06:50 )
120

#BGRIM #ทันหุ้น – BGRIM จ่ายไฟ โรงไฟฟ้าอ่างทอง 2 แล้ว 140 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้ กฟผ. 90 เมกะวัตต์ ยาว 25 ปี สัญญาให้ส่งผ่านต้นทุนได้ เตรียมจ่ายไฟอ่างทอง 3 อีก 140 เมกะวัตต์ ธันวาคมนี้ ชูปั๊มกระแสเงินสดเพิ่ม พร้อมเดินหน้า ยุทธศาสตร์ “GreenLeap” ลุยพลังงานสะอาดไทย-เทศเพียบ ปรับปรุงประสิทธิภาพลดการใช้เชื้อเพลิง

ดร.ฮาราลด์  ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 2 จำกัด (BGPAT2) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BGRIM ถือหุ้น 70% ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าใหม่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 140 เมกะวัตต์ โดยเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ทั้งนี้โครงการ BGPAT2 เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มีประสิทธิภาพสูง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์กับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปี  ในรูปแบบต้นทุนพลังงานส่งผ่าน (Pass Through) และส่วนที่เหลือเป็นการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาวกับลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ซึ่งจะสร้างกระแสเงินสดอย่างมั่นคงให้กับ บี.กริม เพาเวอร์ อย่างต่อเนื่องไปอีก 25 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคม 2566 BGRIM มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมอีก 1 โครงการ ภายใต้บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 3 จำกัด (BGPAT3) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BGRIM ถือหุ้น 70% กำลังการผลิตติดตั้ง 140 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ กับ กฟผ. เช่นกัน ส่งผลให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม อ่างทอง 2 และ อ่างทอง 3 มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 180 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถส่งผ่านต้นทุนพลังงานได้

ลุยพลังงานหมุนเวียน

ดร.ฮาราลด์  ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางของ บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งมั่นในการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งในประเทศและต่างประเทศสู่เป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ “GreenLeap – Global and Green” โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กัมพูชา อิตาลี กรีซ ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 50% ในปี 2573

นอกจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ยังเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้กระบวนการผลิตไฟฟ้า มุ่งลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าจัดหาพลังงานที่ตอบโจทย์ให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจรแก่ลูกค้า (Industrial Solutions) ตลอดจนการจัดหาแหล่งพลังงานทางเลือกเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับอนาคต (Sustainable Fuels) เป็นต้น

สำหรับแนวทางการบริหารต้นทุนจากก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเข้าก๊าซ LNG ในรูปแบบ Regulated Market หรือภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซธรรมชาติ

ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 60 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3,830 เมกะวัตต์ มุ่งขยายการลงทุนสู่การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ารวมกำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 พร้อมยกระดับสู่บริษัทผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ตั้งเป้าก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593)

 กำลังผลิตเพิ่ม

นายมงคล  พ่วงเภตรา  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า BGRIM จะได้รับผลดีในแง่กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังจากเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้า อ่างทอง 2 และกำลังจะเปิดโรงไฟฟ้าอ่างทอง 3 ซึ่งในส่วนของการขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ไม่ได้รับผลกระทบจากเอฟทีมากนัก ยกเว้นลูกค้าอุตสาหกรรม โดยเป้าหมายจากบทวิเคราะห์อยู่ที่ 50 บาท อย่างไรก็ดีราคาหุ้น BGRIM ที่ร่วงลงมาขณะนี้ เกิดจากแรงกดดันด้านธุรกิจโรงไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากบาทอ่อน ดอกเบี้ยสูง การลดค่าเอฟทีของรัฐบาล และต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน จึงอยู่ในช่วงการปรับประมาณการ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง