เปิดรัศมี “อาวุธหนัก” กัมพูชา จาก BM-21 ถึง PHL-03 จังหวัดไหนของไทย สุ่มเสี่ยงบ้าง ?

กัมพูชาเคยใช้อาวุธหนักหลายชนิดโจมตีประเทศไทย นับแต่การสู้รบครั้งแรก เมื่อกลางปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่กัมพูชาจะใช้อาวุธเหล่านี้กับไทยอีกครั้ง โดยเฉลี่ยแล้ว กัมพูชามีแสนยานุภาพยิงโจมตีไทยได้ 0-130 กิโลเมตร
ระบบจรวดหลายลำกล้อง PHL-81
กัมพูชามีมากถึง 100 ชุด ขนาดลำกล้อง 122 มม. ระยะยิงไกล 20 - 40 กม. จีนพัฒนาต่อยอดมาจาก BM-21 ของโซเวียต จุดเด่น คือขับเคลื่อนคล่องตัวกว่ารุ่นเดิม เพราะติดตั้งบนรถบรรทุกรุ่นใหม่
ระบบจรวดหลายลำกล้อง RM-70
คาดว่ากัมพูชามีอาวุธชนิดนี้ถึง 50 ชุด มีขนาดลำกล้อง 122 มม. ระยะยิง 20 - 40 กม. จุดเด่น ตัวรถหุ้มเกราะ จึงทนทานกว่ารุ่น BM-21 โหลดกระสุนเร็ว ยิงต่อเนื่องได้ดี เพราะมี "ระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ" ทำให้ฝ่ายตั้งรับมีเวลาหาที่กำบังน้อยลง
ระบบจรวดหลายลำกล้อง Type-90B
ระยะยิง: 20 - 40 กม. (บางรุ่นพัฒนาหัวรบไปถึง 50 กม.) จุดเด่น ทันสมัยที่สุดในกลุ่มลำกล้อง 122 มม. ยิงได้แม่นยำขึ้น เพราะมีคอมพิวเตอร์ช่วยเล็ง ติดตั้งบนรถบรรทุก เคลื่อนย้ายหนีได้ไว
ขีปนาวุธ PHL-03
ระยะยิงสูงสุด ถึง 130 กิโลเมตร ช่วงเหตุปะทะ เดือน ก.ค. 68 เพจกองทัพไทย ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ อาวุธหนักชนิดนี้ไว้ว่า "เครื่องยิงจรวด PHL-03" ที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยจีน ขนาดลำกล้อง 300 มม. ระยะยิง 70 - 130 กม. จุดเด่น ความแม่นยำสูง ใช้ระบบนำวิถี อำนาจทำลายล้าง หัวรบ 1 นัด สร้างความเสียหายรุนแรงแนวราบ
ได้กว้างประมาณ 6 สนามฟุตบอล
หากพิจารณาพิสัยการยิงของกัมพูชาแล้ว จะอยู่ที่ 0 - 130 กิโลเมตร แล้วมีจังหวัดไหนของไทยบ้าง ที่อยู่ในรัศมีดังกล่าว
นี่เป็นภาพจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดย เพจ มิตรเอิร์ธ - mitrearth วิเคราะห์เทียบกับ Google Map แสดงให้เห็นว่า จังหวัดไหนเข้าข่ายอยู่ในพิสัยยิงของกัมพูชาบ้าง
พิสัยยิง 0-20 กิโลเมตร : ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี แต่เพียงส่วนน้อยของจังหวัดที่ใกล้ชายแดนมากเท่านั้น
พิสัยยิง 20-50 กิโลเมตร : ครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่งของจังหวัดของ ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ อุบลราชธานี
พิสัยยิง 50-100 กิโลเมตร : ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งจังหวัดของตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ อุบลราชธานี และขยายพิสัยการยิงไปถึงจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มเติม คือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และนครราชสีมา
พิสัยยิง 100 - 150 กิโลเมตร: ครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่ง หรือเกือบทั้งหมดของจังหวัดที่กล่าวมาข้างต้น และขยายพิสัยยิงไปถึงพื้นที่บางส่วนของจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร และอำนาจเจริญ ด้วย
อันนี้ ย้ำว่า เป็นการวิเคราะห์รัศมีอ้างอิงกับแผนที่ทางภูมิศาสตร์ เทียบกับศักยภาพพิสัยการยิงของอาวุธหนักเหล่านี้เท่านั้น หากพื้นที่ไหนสุ่มเสี่ยง กองทัพไทยได้สั่งอพยพประชาชนไปครบทุกพื้นที่แล้ว
ย้ำว่า กองทัพไทยมีแสนยานุภาพที่ เหนือกว่า กัมพูชาอย่างมาก ยืนยันว่า มีเครื่องมือในการทำลายเครื่องยิงจรวด ไปสืบค้นดูพบว่า ไทยมีทั้งระบบเรด้าร์ตรวจจับอาวุธ และ อาวุธหนักตอบโต้กลับ เช่น
เรดาร์ ARTHUR (สัญชาติสวีเดน)
- ใช้ตรวจจับและระบุพิกัดของอาวุธยิงวิถีโค้งจากฝั่งตรงข้าม
เช่น ปืนใหญ่ (Artillery) และจรวด (Rocket) - หน่วยงานที่ใช้: กองทัพเรือไทย (นาวิกโยธิน).
- ความสำคัญ: สามารถหา "พิกัดจุดยิง" (Point of Origin) ภายในเสี้ยววินาที
ก่อนที่กระสุนจะตกถึงพื้น ช่วยให้สามารถระบุพิกัดที่ตั้ง
และยิงตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อลดความสูญเสีย
ATMG ปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง
Made in Thailand พิสัยยิงไกลถึง 41 กิโลเมตร สังกัดกองทัพบกไทย ผลิตและประกอบในไทย เข้าประจำการแล้ว
มันคือปืนใหญ่อัตตาจร ขนาดลำกล้อง 155 มม. ติดตั้งบนรถบรรทุก ระยะยิง 40 - 41 กิโลเมตร (เมื่อใช้กระสุนเพิ่มระยะ Base Bleed) ความแม่นยำสูงมีระบบควบคุมการยิงด้วยคอมพิวเตอร์ และระบบช่วยโหลดกระสุน จึงทำให้บรรจุกระสุนยิงได้ต่อเนื่องและไว
เหมาะมากกับพื้นที่อีสานใต้ (บุรีรัมย์, สุรินทร์) เพราะเป็นที่ราบสูง วิ่งไว เพราะเป็นรถล้อยาง วิ่งทำความเร็วเข้าจุดยิงได้ไวกว่ารถล้อสายพาน
เครื่องบินรบ Gripen และ F-16
เครื่องบิน Gripen หรือ F16 สามารถรับข้อมูลพิกัดจากเรดาร์ แล้วบินไปทิ้งระเบิดทำลายพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้ทันที เช่น ยิงใส่ฐานยิงจรวด PHL-03 ที่เสมือนเป็น เป้านิ่ง ของเราจากความอุ้ยอ้าย
อยากให้ประชาชนคนไทยมั่นใจได้ว่าในส่วนของคลังแสงกองทัพไทย พร้อมพิทักษ์อธิปไตยและชีวิตของประชาชนชาวไทยอย่างเต็มที่ 24 ชั่วโมง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
