ลำปางเอาจริง! ประกาศห้ามเผา 1 มี.ค.นี้ หลังไฟป่าลามต่อเนื่อง
24 กุมภาพันธ์ 2564 กำลังพลเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานทุกภาคส่วน และอาสาสมัครภาคประชาชน ในจังหวัดลำปาง ร่วมปฏิญาณตนจะปกป้องดูแลรักษาพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ "หยุดพฤติกรรม การเผา" สานงานเชิงรุกแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก
จังหวัดลำปาง โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง ร่วมกับ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง และหลายหน่วยงานองค์กรภาครัฐในจังหวัดลำปาง เดินหน้าจัดกิจกรรมเชิงรุก สานพลังหน่วยงานเครือข่ายจากทุกภาคส่วน ทำกิจกรรมแบบมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ ปลุกกระแส สร้างจิตสำนึกแก่ประชาชนคนในเขตพื้นที่ให้ ลด ละ เลิก “หยุดพฤติกรรมการเผา” เพื่อรักษาธรรมชาติและอากาศอันบริสุทธิ์ เนื่องในวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งได้มีการนัดรวมพลสมาชิกจิตอาสา ของหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ เข้าร่วมทำกิจกรรม พร้อมกัน ณ ที่บริเวณสนามกีฬา ที่ว่าการอำเภองาว ตำบลนาแก อำเภองาว จังหวัดลำปาง มีนายอนวัช สัตตบุศย์ ปลัดจังหวัดลำปาง เป็นประธานนำกำลังพลเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า เหยี่ยวไฟ เสือไฟ รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า พร้อมด้วยกลุ่มพลังมวลชนจิตอาสา จากทุกภาคส่วน ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ภาคเอกชน กลุ่มเครือข่ายอาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสาในเขตพื้นที่จังหวัดลำปาง เข้าทำกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม รณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือชาวลำปาง "หยุดเผา" ในช่วงเฝ้าระวังควบคุมปัญหา ตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม จนถึง 30 เมษายน 2564
ขณะเดียวกันพบว่าเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวณเฝ้าระวังไฟไหม้ป่า ยังคงเดินลาดตระเวณในพื้น ที่ ป่าดอยพระบาท ที่กว้างถึง 73,000 ไร่ ซึ่งล่าสุดยังพบไฟไหม้พื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ ยังคงเร่งดับไฟพร้อมทั้งทำแนวกันไฟในจุดที่พบว่ามีวัชพืชทับถมจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ริมถนน ข้างทางพบว่ายังคงมีไฟไหม้ป่าข้างทางเป็นจุดๆ เจ้าหน้าที่เร่งนำรถน้ำฉีดน้ำดับไฟที่ลุกไหม้ อย่างต่อเนื่อง และเมื่อนำโดรนขึ้นบินสำรวจสภาพอากาศพบว่ามีไฟลุกไหม้พื้นที่เตรียมการเกษตร ของเกษตรกรจำนวนมาก สันนิฐานว่าเป็นการชิงเผาก่อนถึงวันที่ทางจังหวัดห้ามเผาเด็ดขาด ส่วนสภาพอากาศพบว่าท้องฝ้าถูกปกคลุมด้วยหมอกจากควันไฟขาวโพนไปทั่วบริเวณ
และจากสาเหตุเกิดไฟไหม้ป่าหลายพื้นที่ ส่งผลให้วันนี้ยังคงมีหมอกควันไฟปกคลุ่ม ไปทั่วเมืองลำปาง โดยรายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้ง 4 สถานี โดยที่สถานีอุตุนิยมวิทยา ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง วัดได้ 107 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร AQI 177 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานี รพ.สต. ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร AQI 119 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานี รพ.สต.ท่าสี ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ วัดได้ 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร AQI 172 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสถานีการประปา ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 117 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร AQI 154 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งทั้ง 4 สถานนี พบคุณภาพสูงเกินมาตราฐานอยู่ในเกณสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ