DEXON ไอพีโอ 4.50 บ. ลั่นระฆังเทรด 31 มี.ค.

#DEXON #ทันหุ้น - DEXON เคาะราคาไอพีโอ 4.50 บาท เปิดจองซื้อวันที่ 24, 27 มีนาคม 2566 จ่อเทรดในตลาดเอ็มเอไอวันที่ 31 มีนาคมนี้ ฟากผู้บริหารเล็งทุ่มงบ 180 ล้านบาท สยายปีกรับทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา-เนเธอร์แลนด์ พร้อมพัฒนาโปรดักต์เพิ่ม
นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้มีการสรุปราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) ไว้ที่ระดับ 4.50 บาท รวมทั้งได้มีการแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น (อันเดอร์ไรต์) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย
** จ่อเทรด 31 มี.ค.
ทั้งนี้ DEXON จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกจำนวน 123,183,200 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท คิดเป็น 25.85% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยจะมีการเปิดให้จองไอพีโอผ่านทางอันเดอร์ไรต์ และผู้ร่วมรับประกันการจำหน่ายไอพีโอในวันที่ 24, 27 มีนาคม 2566 และคาดเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในวันที่ 31 มีนาคมนี้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน DEXON เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรม และสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สำหรับตรวจสอบโครงสร้าง และอุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม พลังงาน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ซึ่ง DEXON มีทีมผู้เชี่ยวชาญ และทีม วิศวกรที่มีประสบการณ์ รวมถึงให้บริการด้วยมาตรฐานทางเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยที่บริษัทสามารถพัฒนาขึ้นเอง ได้รับการยอมรับ และได้รับใบรับรองมาตรฐานต่างๆ จากหน่วยงานรับรอง ระบบในระดับสากล
** แผนใช้เงิน IPO
สำหรับแผนการใช้เงินระดมทุนจากไอพีโอครั้งนี้ เบื้องต้นทาง DEXON มีแผนใช้เงินลงทุนราว 120 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ (ทวีป ยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง (Smart Pigging Technology) ที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กใน ระบบท่อส่งที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น (Hawk Pipeline Crack Detection and Measurement System)
นอกจากนี้ยังได้นำมาลงทุนในงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี(R&D) อยู่ที่ 60 ล้านบาท เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างมี ประสิทธิภาพ, การตรวจสอบระบบท่อส่งเพื่อรองรับการแปลงไปสู่การใช้งานของก๊าซไฮโดรเจน (Hydrogen Energy Conversion) ที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในระบบท่อส่งจากเดิมเป็นน้ำมัน และก๊าซ ธรรมชาติ เป็นการขนส่งก๊าซไฮโดรเจน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage : CCS) เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่วนที่เหลือชำระเงินกู้ยืมจากสถาบัน การเงิน รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา DEXON ระบุว่า บริษัทประมาณการรายได้ 5 ปีนับจากนี้จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% รองรับการเสริมศักยาภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ประกอบกับมีการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่เป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตในอนาคต