วิกฤตตลาดรถ "Bosch" ปลดพนักงาน 13,000 ตำแหน่ง

Robert Bosch ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของเยอรมนี ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ด้วยการปลดพนักงานจำนวนกว่า 13,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดโลก โดยตั้งเป้าลดต้นทุนลงจากภาระที่สูงกว่า 2.5 พันล้านยูโรต่อปี หรือราว 108,000 ล้านบาท
Bosch เปิดเผยว่า แผนการปลดพนักงานจะทยอยดำเนินการในหลายพื้นที่ของเยอรมนี ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2573 โดยตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่ในฝ่ายบริหาร ฝ่ายขาย การพัฒนา และสายการผลิต ซึ่งมีภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินต่อเนื่องจากความต้องการที่ลดลง
นอกจากการปลดพนักงานแล้วยังมีแผนลดค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบและการดำเนินงาน ปรับลดการลงทุนในอาคารและโรงงาน รวมถึงการปรับโครงสร้างด้านโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจที่ท้าทายมากขึ้น
สเตฟาน กรอช กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายแรงงานของ Bosch กล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่บริษัทจำเป็นต้องเร่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจด้านโมบิลิตี้ พร้อมลดต้นทุนอย่างถาวรเพื่อความอยู่รอดในระยะยาว
ด้านสเตฟาน ฮาร์ทุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bosch เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อต้นเดือนว่า บริษัทกำลังเตรียมการปรับโครงสร้างเชิงลึกโดยคาดว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตเพียงราวร้อยละ 2 จากรายได้ 90.5 พันล้านยูโร (9 หมื่น 500 ล้านยูโร) เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของตลาด
ปัจจุบัน Bosch มีพนักงานทั่วโลกกว่า 418,000 คน การปรับลดครั้งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากเศรษฐกิจซบเซาและอุปสรรคทางการค้า
แม้ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้ข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป โดยลดภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จากยุโรปเหลือร้อยละ 15 ตั้งแต่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนี หรือ VDA ยังระบุว่า อุปสรรคทางการค้าอื่น ๆ ยังคงสร้างความท้าทาย และเรียกร้องให้สหภาพยุโรปเดินหน้าผลักดันข้อตกลงเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาภาระของผู้ผลิตในภูมิภาค
มาร์คุส ไฮน์ กรรมการบอร์ด Bosch และประธานฝ่ายโมบิลิตี้ ย้ำว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกจะทวีความรุนแรงมากขึ้นต่อไป ทำให้ทุกบริษัท รวมถึง Bosch จำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อความมั่นคงในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
